ทัวร์วันที่ 1) กรุงเทพฯ – เดลลี – อัครา

04.30

พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ นัดหมายเคาน์เตอร์สายการบิน เจ็ทแอร์เวย์ ประตู 7 เคาน์เตอร์ P โดยมีเจ้าหน้าที่จากทางบริษัทฯ คอยต้อนรับให้การบริการ และอำนวยความสะดวกต่างๆ ในเรื่องเอกสาร และสัมภาระในการเดินทางให้กับทุกท่าน เช็คอิน ส่งมอบกระเป๋าเดินทาง สัมภาระตรวจสอบบัตรที่นั่ง หนังสือเดินทาง วีซ่า

06.50

ออกเดินทางสู่ เมืองเดลลี ประเทศอินเดีย โดยสายการบิน เจ็ทแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W063 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)
(เวลาท้องถิ่นที่อินเดีย ช้ากว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมงครึ่ง) เดินทางถึง สนามบินอินทิราคานธี เมืองเดลลี ประเทศอินเดีย ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

12.00

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 1)

13.00

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอัครา (ระยะทางประมาณ 211 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)

18.00

รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 2)

นำท่านเข้าสู่ที่พัก พักที่ Mansingh Hotel หรือเทียบเท่า

ทัวร์วันที่ 2) ท่องเที่ยวเดลลี – อัครา – โครักขปูร์

07.00

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 3)

08.00

นำท่านชม ฟาเตห์ปูร์ (Fatehpur Sikri) ศาสนสถาน สิครี คือส่วนของพระราชวังที่ประทับ "ฟาเตห์ปูร์ สิคริ" เป็นเมืองที่สร้างด้วยหินทรายสีแดง มีทั้งมัสยิด เขตพระราชฐาน ฮาเร็ม ตำหนักใน สระน้ำ สวนขนาดใหญ่มีเวทีแสดงดนตรีกลางสระน้ำ และแน่นอนที่สุด สุสานของ ชาย์ค ซาริม คสิติ (Shayk Salim Chishti) พระราชฐานชั้นในแบ่งเขตของมเหสีแต่ละองค์อย่างชัดเจนอย่างเช่น องค์ที่เป็น ฮินดู ตำหนักก็จะเป็นแบบฮินดูองค์ที่มาจากเปอร์เซีย ก็จะเป็นสถาปัตยกรรมเปอร์เซียทำให้การเดินผ่านไปแต่ละส่วนของบริเวณอันกว้างใหญ่ของพระราชฐานเหมือนได้ไปท่องเที่ยวในดินแดนหลายชนชาติไปพร้อมๆ กัน

12.30

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 4)

13.30

นำท่าน ชม ทัชมาฮาล 1 ใน 7 ของสิ่งมหัศจรรย์ของโลก อนุสาวรีย์แห่งความรักที่พระเจ้าชาร์จาฮาล สร้างเป็นที่ฝังศพพระนางมุมตัส เป็นอนุสรณ์แห่งความรักอันยิ่งใหญ่บริสุทธิ์และน่าบูชาเกินกว่าที่จะเป็นสิ่งก่อสร้างด้วยมือมนุษย์ ท่านจะได้สัมผัสเครื่องประดับ อัญมณี อันมีค่านานาชนิดที่ประดิษฐ์ ประดอยไว้ในหินอ่อนภายในทัชมาฮาล โดยช่างฝีมือชั้นเอกของโลกยากที่จะหาที่ใดเปรียบ จากนั้นนำท่านชม พระราชวังอัคราฟอร์ท ซึ่งเป็นพระราชวังที่สวยงาม มีบริเวณกว้างใหญ่ ใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 3 สมัยพระเจ้าชาห์จาฮาน กษัตริย์องค์ที่ 5 ของราชวงศ์โมกุลเป็นผู้สร้างต่อจนเสร็จภายในอัคราฟอร์ดมีห้องสวยงามที่สร้างด้วยหินอ่อนแกะสลักฝังโดยรอบโดยเฉพาะจะพาท่านไป ชมห้องมุขแปดเหลี่ยม ซึ่งเป็นห้องที่มีความสำคัญที่สุดภายในพระราชวังแห่งนี้และภายในห้องนี้ ท่านจะได้พบกับสถานที่กษัตริย์ ชาร์จาฮาล ถูกลูกชายจับมาขังไว้จนสิ้นพระชนม์

18.30

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 5)

หลังรับประทานอาหาร นำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟเมืองอัครา

22.00

ออกเดินทางสู่ เมืองโครักขปูร์ โดยรถไฟขบวน 19037 AVADH EXPRESS พักค้างคืนบนรถไฟ

ทัวร์วันที่ 3) ท่องเที่ยวโครักขปูร์ – กุสินารา

07.00

เดินทางถึงสถานีรถไฟ เมืองโครักขปูร์

จากนั้นนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก เพื่อ รับประทานอาหารเช้า

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 6)

หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองกุสินารา (ระยะทางประมาณ 53 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 7)

บ่าย

นำท่านนมัสการสถานที่ปรินิพพาน ณ สาลวโนทยาน มีต้นสาละ ปลูกไว้ เป็นอนุสรณ์เพื่อเป็น อนุสสติ ถึงพระพุทธองค์ นมัสการปรินิพพานสถูป มีลักษณะเป็นทรงบาตรคว่ำสูงใหญ่มีฉัตร 3 ชั้นตอนบนสุด ได้พังลงมาเมื่อปี 2506 ปัจจุบันได้บูรณะแล้ว ถัดมาเป็น ปรินิพพานวิหาร ภายในมีพระพุทธรูป ปางปรินิพพาน ฝีมือช่างชาวมถุรา อายุกว่า 1,900 ปี ที่งดงามยิ่งโดยรอบปรากฏซากโบราณสถาน หมู่กุฎิ สงฆ์สถูปเจดีย์ต่างๆมากมาย แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในสมัยโบราณนับเป็นพันปี ก่อนที่พุทธศาสนาจะเสื่อมไปจากอินเดีย
จากนั้นนำท่านนมัสการ มกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระสรีระของพระพุทธเจ้า ซึ่งบรรดาเหล่ากษัตริย์ ได้ถวายสถานที่นี้อันเคยใช้เป็นที่ประกอบพิธีสวมมงกุฎรับตำแหน่งกษัตริย์แห่งแคว้นมัลละ มาแต่โบราณ ซึ่งปัจจุบันเป็นซากเจดีย์ทรงกลมขนาดใหญ่สร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช

จากนั้นนำท่านสู่ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ซึ่งมีพระราชรัตนรังษีเป็นประธานสงฆ์ นำชม วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ โดยรอบ นมัสการพระมหาเจดีย์ และพระบรมสารีริกธาตุ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน พระอุโบสถศิลปะไทยประยุกต์ที่สง่างาม และคลินิก 8 บาท รักษาได้ทุกโรค

จากนั้น เชิญร่วมทำบุญทอดผ้าป่า ตามกำลังศรัทธา ถวาย ณ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์

สมควรแก่เวลา นำท่านเข้าสู่โรงแรม

18.00

รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 8)

พักที่ Lotus Nikko Hotel หรือเทียบเท่า

ทัวร์วันที่ 4) ท่องเที่ยวกุสินารา – ลุมพินี (ประเทศเนปาล)

07.00

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 9)

08.00

นำท่านเดินทางสู่ ลุมพินี (ประเทศเนปาล) (ระยะทางประมาณ 171 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)

12.00

รับประทานอาหารกลางวันที่ วัดไทย 960 (มื้อที่ 10)

13.00

เดินทางถึง ชายแดน อินเดีย-เนปาล ประทับตราหนังสือเดินทางเพื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง

นำท่านสู่ ลุมพินีวัน สถานที่พระนางสิริมหามายา ประสูติเจ้าชายสิทธิธัตถะกุมาร เมื่อวันศุกร์ เพ็ญเดือน 6 ปีจอ 80 ปี ก่อนพุทธศักราช ชมวิหารมหามายาเทวี ซึ่งสร้างสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชภายในพบภาพจำหลักศิลาประสูติพระกุมาร และ นมัสการรอยพระพุทธบาทน้อย ที่สันนิษฐานว่าพระเจ้าอโศก สร้างถวายเป็นพุทธบูชา พร้อมพระอารามที่ปรากฏซากปรักหักพังอยู่รอบบริเวณ ชม สระโบกขรณี ที่พระนางสิริมหามายาสรงสนาน และเสาอโศก ที่มีข้อความจารึกเป็นหลักฐานว่า “ณ ที่นี้ คือสถานที่ประสูติของ พระพุทธเจ้า และพระเจ้าอโศกเสด็จมาเพื่อนมัสการในปีที่ 20 แห่งรัชกาลของพระองค์ ในพุทธศตวรรษที่ 3”

จากนั้นเชิญท่านร่วมทำบุญทอดผ้าป่า ตามกำลังศรัทธา ถวาย ณ วัดไทยลุมพินี

18.30

นำท่านเข้าสู่ที่พัก และ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 11)

พักที่ New Crystal Hotel หรือเทียบเท่า

ทัวร์วันที่ 5) ท่องเที่ยวลุมพินี (ประเทศเนปาล) – พาราณสี – สารนาท

07.00

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 12)

08.00

นำท่านเดินทางสู่ เมืองพาราณสี (ระยะทางประมาณ 325 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง)

11.00

รับประทานอาหารกลางวัน (อาหารกล่อง) (มื้อที่ 13)

12.00

ออกเดินทางต่อสู่ เมืองพาราณสี

15.00

เดินทางถึง เมืองพาราณสี เมืองเก่าแก่กว่า 4,000 ปี ริมฝั่งแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ ที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ชมวิถีชีวิตชาวเมืองพาราณสี สู่ท่าเรือ เพื่อ ล่องเรือชมแม่น้ำคงคา แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู เพราะเชื่อว่าแม่น้ำนี้ไหลมาจาก ภูเขาไกรลาส (MT. KAILASH) บนสรวงสวรรค์ (ตามหลักภูมิศาสตร์แม่น้ำนี้ไหลมาจากเทือกเขาหิมาลัย) ชมพิธีบูชาพระอาทิตย์และ การอาบน้ำล้างบาป และการเผาศพริมฝั่งแม่น้ำคงคา ที่ 4,000 กว่าปี ไฟที่ไม่เคยดับมอดลงเลย

18.30

นำท่านเข้าสู่ที่พักและ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 14) พักที่ Ideal Tower Hotel หรือเทียบเท่า

ทัวร์วันที่ 6) ท่องเที่ยวพาราณสี - สารนาท – พุทธคยา

07.00

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 15)

08.00

นำท่านเดินทางสู่สารนาท (ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร) นำท่านชม ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน สถานที่แสดงปฐมเทศนา แล้วนำท่าน นมัสการธัมเมกขะสถูป สถานที่ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ และเกิดพระรัตนตรัยขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก สวดมนต์และฟังธรรมเรื่องความหมายของธรรมจักร กัปปวัฒนสูตร นั่งสมาธิ สร้างบารมี นมัสการ พระมูลคันธกุฏิ กุฏิหลังแรกที่พระพุทธองค์จำพรรษาเป็นพรรษาแรกหลังจากตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ชม สังฆารามกุฎิสงฆ์กว่า 1,000 หลัง ชมสวนกวาง อันเป็น ที่มาของชื่อ อิสิปตนมฤคทายวัน นมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ที่อันเชิญมาจากเมืองคันธาระ ประเทศปากีสถานในปัจจุบัน ประดิษฐาน ในมูลคันธกุฏิ หลังใหม่ซึ่งจำลองแบบมาจากคันธกุฎีหลังเก่า คารวะท่านอนาคาริกธรรมปาละ ผู้ต่อสู้ เพื่อนำพระพุทธศาสนาคืนสู่ พุทธภูมิ นำท่าน นมัสการเจาคันธีสถูป สถานที่พระพุทธองค์พบปัญจวัคคีย์จากนั้นอิสระให้ท่านช้อปปิ้ง สินค้างานฝีมือพื้นเมือง อาทิเช่น ผ้าไหมกาสี ฯลฯ

จากนั้น เชิญร่วมทำบุญทอดผ้าป่า ตามกำลังศรัทธา ถวาย ณ วัดไทยสารนาท

11.00

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 16)

12.00

นำท่านเดินทางสู่ เมืองพุทธคยา (ระยะทางประมาณ 246 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง)

16.00

เดินทางถึง เมืองพุทธคยา

นำชม แม่น้ำเนรัญชรา ชมสถานที่พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานลอยถาด หลังจากรับถวายข้าวมธุปายาสจากนางสุชาดาชมซากสุชาดาสถูปที่สันนิษฐานว่าสร้างโดยพระเจ้าอโศกมหาราชบริเวณสถานที่ซึ่งเคยเป็นบ้านนางสุชาดา

นำชม วัดพุทธนานาชาติ อาทิ วัดจีน วัดญี่ปุ่น วัดทิเบต วัดสิขิม วัดภูฏาน วัดศรีลังกา วัดบังคลาเทศ นมัสการพระพุทธรูปหินทรายแดงปางสมาธิ ที่มีความสูงถึง 80 ฟุต ล้อมรอบด้วยพระอรหันตสาวกสำคัญ 10 องค์ สร้างโดยชาวพุทธญี่ปุ่น

18.00

นำท่านเข้าสู่ที่พักและ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 17)

พักที่ Taj Dabar Hotel หรือเทียบเท่า

ทัวร์วันที่ 7) ท่องเที่ยวพุทธคยา – นาลันทา - ราชคฤห์

07.00

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 18)

08.00

นำท่านสู่ พระมหาโพธิเจดีย์พุทธคยา ซึ่งสร้างโดยพระเจ้าหุวิชกะ มีรูปแบบเอกลักษณ์เฉพาะตัว นมัสการ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ ซึ่งปัจจุบันเป็นต้นที่ 4 นมัสการพระแท่นวัชรอาสน์ ซึ่งพระเจ้าอโศกมหาราช สร้างถวายไว้แทนรัตนบัลลังก์ในวันตรัสรู้ กราบนมัสการพระพุทธเมตตา อันศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานภายในพระมหาโพธิ์เจดีย์มาแต่โบราณ นมัสการ สัตตมหาสถาน ที่พระพุทธองค์เสวยวิมุติสุข 7 สัปดาห์หลังตรัสรู้ นำท่านไหว้พระสวดมนต์นั่งสมาธิปฏิบัติธรรมใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์สถานที่ตรัสรู้

จากนั้น เชิญร่วมทำบุญทอดผ้าป่า ตามกำลังศรัทธา ถวาย ณ วัดไทยพุทธคย

11.00

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 19)

12.00

ออกเดินทางสู่ เมืองนาลันทา (ระยะทางประมาณ 60.9 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง) ระหว่างทางแวะชมคุกพระเจ้าพิมพิสาร ซึ่งถูกเจ้าชายอชาติศัตรู พระโอรสจับขังเพื่อแย่งราชสมบัติ ชมรอยเกวียน 2500 ปี ประทับร่องลึกในพื้นหิน แสดงความเจริญรุ่งเรืองทางการค้าของกรุงราชคฤห์โบราณ ชมซากสถูปที่พระเจ้าพิมพิสารพบพระพุทธเจ้าครั้งแรก จากนั้นนำท่านนมัสการพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองนาลันทา หลวงพ่อพุทธองค์ดำ พระเกตุทรงบัวตูม ปางนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ชี้แม่พระธรณีเป็นพยาน หน้าตักกว้าง ๖๙ ฟุต สร้างในสมัยพระเจ้าเทวปาล เมื่อประมาณ พ.ศ. ๑๓๕๓-๑๓๙๓ ประดิษฐานอยู่ทางด้านทิศเหนือของซากปรักหักพังของมหาวิทยาลัยนาลันทา เมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย เมื่อประมาณปี ๑๗๖๖ จนถูกเศษอิฐและหินทับถมลงใต้แผ่นดินเป็นเวลานานเกือบ ๗ ศตวรรษ หรือประมาณเกือบ ๗๐๐ ปี

จากนั้นนำชม มหาวิทยาลัยนาลันทา มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของโลก ที่เคยรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ เมื่อพันปีมาแล้วเคยมีพระนักศึกษาอยู่นับหมื่นจากนานาประเทศ ก่อนถูกทำลายในสมัยพุทธศตวรรษที่16 โดยกองทัพชาวเติร์ก ชมซากหอสมุด ซึ่งเคยสูงถึง 9 ชั้น ซากถูปเจดีย์ วิหาร ห้องเรียน ห้องพัก ของพระนักศึกษา นมัสการสถูปพระสารีบุตรซึ่งสร้างบริเวณที่เป็นบ้านเดิมและเป็นที่นิพพานของท่าน พิเศษแวะซื้อขนมขาชา ที่มีชื่อเสียงมาแต่ครั้งพุทธกาลให้ท่านได้ชิมลิ้มรส

จากนั้นนำท่านสู่เมืองราชคฤห์ เมืองหลวงของแคว้นมคธในอดีต อันล้อมรอบด้วยภูเขาจนได้รับนาม “เบญจคีรีนคร”

18.00

นำท่านเดินทางสู่ที่พัก และ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 20)

พักที่ Rajgir Residency Hotel หรือเทียบเท่า

ทัวร์วันที่ 8) ท่องเที่ยวราชคฤห์ – นาลันทา – ปัตนะ – กัลกัตตา

07.00

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 21)

08.00

นำขึ้นสู่ เขาคิชฌกูฏ นมัสการพระคันธกุฏิ พระพุทธองค์ บนยอดเขา ชมกุฏิพระอานนท์ ถ้ำสุกรขาตา ที่พระสารีบุตรบรรลุพระอรหันต์ ถ้ำพระโมคคัลลานะและสถานที่ พระเทวทัตกลิ้งหินใส่พระพุทธองค์ ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองราชคฤห์ในโอบเขาจากเบื้องสูง ลงจากเขาคิชกูฏแล้ว (การขึ้นเขาคิชกูฏ ซึ่งเป็นการเดินขึ้นที่สูง ลาดชันพอประมาณ ระยะทางโดยรวมประมาณ 750 เมตร ทุกท่านจะต้องเดินขึ้น รถยนต์ไม่สามารถขึ้นไปถึงได้ ผู้ที่แข็งแรงสามารถเดินขึ้นได้ ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีก็ถึง สำหรับท่านที่คิดว่าเดินไม่ไหว ก็สามารถขึ้นได้โดยวิธีการนั่งเสลี่ยง คนหามขึ้น-ลงได้ แต่ต้องแจ้งล่วงหน้าก่อน เพื่อติดต่อแขกให้เตรียมคานหามไปรอที่เชิงเขา ) ราคานี้ไม่รวมในรายการ

จากนั้นนำท่านกลับสู่ที่พัก เชิญร่วมทำบุญทอดผ้าป่า ตามกำลังศรัทธา ถวาย ณ วัดไทยสิริราชคฤห์

11.00

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 22)

12.00

นำชม วัดชีวกกัมพวัน หมอชีวก หรือ "ชีวกโกมารภัจจ์" เป็น บุตรของนางสาลวตี ซึ่งเป็นหญิงนครโสเภณีประจำ กรุงราชคฤห์ เมื่อนางคลอดลูกออกมาเป็นชายก็ได้นำไปทิ้งยังกองขยะ ต่อมาอภัยราชกุมารไป พบเข้าจึงนำไปเลี้ยงไว้ในวัง และให้ไปศึกษาวิชาแพทย์ที่เมืองตัก-กสิลา นครหลวงแห่งแคว้นคันธาระ เมื่อจบออกมาก็เป็นหมอใหญ่ที่มีชื่อเสียงมาก หมอชีวกผู้นี้ได้มีโอกาสถวายการรักษาพระพุทธองค์ เมื่อครั้งที่พระเทวทัตกลิ้งหินใส่จนห้อพระโลหิต จากนั้นนำท่านชม วัดเวฬุวนารามวัดแห่งแรกของโลกที่พระเจ้าพิมพิสารสร้างถวายพระพุทธเจ้าซึ่งเกิดเหตุการณ์ พระสงฆ์ 1,250 รูป ล้วนเป็นเอหิภิกขุ มาประชุมพร้อมกัน โดยมิได้นัดหมายในวัน “มาฆบูชา”ภายในวัดร่มรื่นด้วยต้นไผ่และสระกลันฑกะซึ่งพระเจ้าพิมพิสารทรงขุดไว้แล้ว ชมตโปธาร บ่อน้ำแร่ร้อนซึ่งมีมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล เป็นต้นเหตุของการมีพุทธานุ ญาติให้พระภิกษุสรงน้ำทุก 15 วัน ส่วนชาวฮินดูเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลผ่านขุมนรกชั้นโลหกุมภีร์จึงนิยมมาอาบน้ำแร่ โดยแบ่งระดับให้แต่ละวรรณะแบ่งกันอาบ

15.00

นำท่านเดินทางสู่ เมืองปัตนะ (ระยะทางประมาณ 103 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง)

17.00

เดินทางถึง เมืองปัตนะ เมืองแห่งพระเจ้าอโศกมหาราช

ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 23)

ก่อนเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเดินทางไปยังเมืองกัลกัตตา

21.00

นำท่านออกเดินทางสู่กัลกัตต้า โดยสายการบิน เจ็ทแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 7100

22.00

เดินทางถึง สนามบินกัลกัตต้า คณะเดินทางรอต่อเครื่องกลับสู่กรุงเทพฯ

ทัวร์วันที่ 9) ท่องเที่ยวกัลกัตตา – กรุงเทพฯ

01.30

ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน เจ็ทแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 066

05.40

เดินทางถึง สุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ สุขใจ อิ่มบุญ เพิ่มบารมีธรรมไปแล้ว อยากไปอีกไม่รู้เบื่อ