ทัวร์อินเดีย-เดลลี-มัณดาวา-บิคาเนอร์ 10 วัน (9W)
โปรแกรมทัวร์อินเดียราคาถูกควบกับทัวร์เนปาล ในโปรแกรมทัวร์ไปกราบนมัสการสังเวชนียสถานสี่ตำบล เยือนทัชมาฮาล หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก กราบไหว้วัดพุทธนานาชาติ และที่พลาดไม่ได้คือเยี่ยมชมหลวงพ่อพุทธองค์ดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองนาลันทา และในโปรแกรมทัวร์อินเดียนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่อยู่ในโปรแกรมนี้
ราคาติดต่อเจ้าหน้าที่
INAJ9-10BKK |
ทัวร์วันที่ 1) กรุงเทพฯ – เดลลี |
|
04.30 |
พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ นัดหมายเคาน์เตอร์สายการบิน เจ็ทแอร์เวย์ ประตู 7 เคาน์เตอร์ P โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับให้การบริการ และอำนวยความสะดวกต่างๆ ในเรื่องเอกสาร และสัมภาระในการเดินทาง |
06.50 |
ออกเดินทางสู่…เมืองเดลลี ประเทศอินเดีย โดยสายการบิน เจ็ทแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W063 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) |
09.35 |
(เวลาท้องถิ่นที่อินเดีย ช้ากว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมงครึ่ง)
|
12.00 |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 1)... |
บ่าย |
นำท่านเดินทางสู่เมืองมัณดาวา (ระยะทาง 265 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง) เมืองเล็กๆ อยู่ใจกลาง Shekawati ในแคว้นราชาสถาน เป็นที่รู้จักกันดีในแบบศิลปะ Havelis มัณดาวาเป็นหมู่บ้านที่มีความสุขและเงียบสงบ |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 2)...พักที่ SARA VILLAS หรือเทียบเท่า |
ทัวร์วันที่ 2) ท่องเที่ยวมัณดาวา – บิคาเนอร์ |
|
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 3)...นำท่านเดินเที่ยว ชมเมืองมัณดาวา ชมฮาเวลี หรือว่าบ้านพักของขุนนาง เศรษฐี พ่อค้าวานิช ในสมัยก่อน ราว ค.ศ. ที่ 17 ชมภาพจิตรกรรมผนัง สีน้ำเฟรสโก ที่แสดงถึงเรื่องราวเกี่ยวทางศาสนา ไปจนถึงภาพอีโรติค และภาพที่แสดงถึงการเสียดสีสังคม ที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวของจิตรกรในท้องถิ่นนั้น และความเจริญร่ำรวยมั่งคั่ง และรุ่งเรืองของคนในสมัยนั้น ซึ่งจะพบเห็นได้โดยรอบ
|
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 4)... |
บ่าย |
นำท่านเดินทางสู่เมืองบิคาเนอร์ (ระยะทาง 170 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง) สมัยอดีตยังไม่มีเมืองบิคเนอร์ บริเวณนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Mawar Land of the Dead พ่อค้าตามเส้นทางสายไหม ยังต้องใช้ผ่านไปมา จึงมีโจรหลายก๊ก ยึดครองพื้นที่หย่อมเล็กหย่อมน้อย และยังไม่มีใครครอบครองดินแดนแห่งนี้ เจ้าชาย Rao Bika แห่งแคว้นโยธปุระ (จ๊อดปูร์) เกิดความน้อยใจในคำพูดพระบิดา จึงตัดสินใจมุ่งหน้าเดินทางก่อนลงหลักปักฐานต่อสู้กับพวกโจร นำความร่มเย็นเข้ามาสู่ดินแดนแห่งความตาย จนชาวบ้านท้องถิ่นเข้าร่วมในการต่อสู้กับพวกโจร จนสุดท้ายเมืองบิคาเนอร์ถูกตั้งขึ้น |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 5)...พักที่ HOTEL BASANT VIHAR PALACE หรือเทียบเท่า |
ทัวร์วันที่ 3) ท่องเที่ยวบิคาเนอร์ – จัยแซลเมียร์ |
|
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 6)...นำท่าน ชมป้อมสีแดงแห่งเมืองบิคาเนอร์ หรือ ป้อมจูนนาการ์ คือวังมหาราชาที่อยู่ในสภาพดีสุดแห่งหนึ่งในราชาสถาน สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1588 ถูกสร้างโดยราชปุต Rao Bika ด้วยการต่อสู้กับชนพื้นเมือง จนสามารถตั้งถิ่นฐาน แม้ผ่านการรุกรานจากมหาโมกุลหลายครั้ง แต่ทะเลทรายที่อยู่รอบด้าน รวมทั้งความกล้าหาญของนักรบ ช่วยให้เมืองอยู่รอดเสมอมา ภายในป้อมใหญ่ แบ่งเป็นหลายส่วน เช่น Chandra Mahal (ตำหนักจันทรา) Hawa Mahal (ตำหนักวายุ) เพื่อใช้ประโยชน์ด้านต่างๆ ใกล้ประตูสุริยา (Sun gate) |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 7)... |
บ่าย |
นำท่านเดินทางสู่เมืองจัยแซลเมียร์ (ระยะทาง 300 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง) เมืองที่ได้รับสมญานามว่า “นครสีทอง” ตั้งอยู่บนที่ราบสูงกลางที่ราบทะเลทรายธาร์ มีกำแพงสูงใหญ่ดูโอฬาร เป็นเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ทางตะวันสุดของแคว้นราชาสถาน ในอดีตเคยเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญระหว่างอินเดียกับตะวันออกกลาง นครแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นจากหินทรายสีเหลืองเป็นส่วนใหญ่ เมื่อยามต้องแสงอาทิตย์อัสดงที่ไล้ลงบนพื้นผิวของหินเหล่านี้ก็จะปรากฏให้เห็นเป็นสีทองอร่ามตาและนี่คือที่มาของสมญา “นครสีทอง” ด้วยเหตุที่จัยแซลเมียร์เคยเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญส่งผลให้พ่อค้าวาณิชย์ในตระกูลดังหลายคนร่ำรวยกันอย่างมหาศาล กลายเป็นอภิมหาเศรษฐี มีคฤหาสห์ที่ใหญ่โตมโหฬาร
|
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 8)...พักที่ GORBAND PALACE หรือเทียบเท่า |
ทัวร์วันที่ 4) ท่องเที่ยวจัยแซลเมียร์ |
|
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 9)...นำท่าน ชมทะเลสาบกาดซิซาร์ โอเอซิสขนาดมหึมาท่ามกลางทะเลที่สร้างโดยมหาราชา วาลกาดซี ราวค.ศ.ที่ 14 ซึ่งทะเลสาบนี้เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของเมืองจัยแซลเมียร์ รอบๆทะเลสาบจะมีวัดเล็กๆ ในช่วงฤดูหนาวจะได้พบเห็นนกนานาชนิดโดยรอบทะเลสาบ ชมบาดาแบก ศาลากลางน้ำที่ตั้งอยู่ภายในทะเลสาบกาดซีซาร์ สร้างโดยมหาราชาวาลกาดซีครั้งทรงแปรพระราชสถานมานั่งพักผ่อนคลายความร้อนที่ทะเลสาบพร้อมเชื้อพระวงศ์ จากนั้นนำท่านชมป้อมจัยแซลเมียร์ ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางทะเลสาบ สร้างโดย Bhatti Rajput rule Rawal Jaisal ค.ศ. 1156 บนเขาทิตรีกูฎ โดยป้อมนี้ถือว่าเป็นป้อมที่สร้างลำดับที่ 2 ของรัฐราชสถาน ชมความสวยงามของปราสาททรายที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางทะเลทราย ภายในป้อมมีบ้านพักของชาวบ้านที่พำนักอยู่อาศัยมานานนับร้อยปี ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพของเมืองจัยแซลเมียร์โดยรอบ
|
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 10)... |
บ่าย |
นำท่านเดินทางสู่ทะเลทรายธาร์ ห่างจากตัวเมืองออกไปราว 42 กิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังในจัยแซลเมียร์ ให้ท่านสัมผัสกับการขี่อูฐสู่ทะเลทรายธาร์ ชม Sam Sand Dunes เนินทรายแห่งนี้เป็นที่ซึ่งโค้งขอบฟ้าจรดกับผืนแผ่นทรายได้อย่างงดงามเกินบรรยาย
|
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 11)...พักที่ GORBAND PALACE หรือเทียบเท่า |
ทัวร์วันที่ 5) ท่องเที่ยวจัยแซลเมียร์ – จ๊อดปูร์ |
|
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 12)...
|
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 13)... |
บ่าย |
นำท่านชมนครสีฟ้า เมืองแห่งนักรบที่แกร่งกล้าจากหน้าประวัติศาสตร์ของชาวราชปุต
|
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 14)...พักที่ CHANDRA INN หรือเทียบเท่า |
ทัวร์วันที่ 6) ท่องเที่ยวจ๊อดปูร์ – เมาท์อาบู |
|
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 15)...นำท่านเดินทางสู่เมาท์อาบู หรือเรียกว่า ภูเขาราชาเทวะ มีความสูงประมาณ1,250 เมตร จากระดับน้ำทะเลจึงทำให้อากาศเย็นสบายทั้งปี เป็นเมืองพักผ่อนเนื่องจากแคว้นราชาสถานเป็นเขตทะเลทรายเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ผู้คนหนีร้อนมาพักผ่อนที่นี่ และยังเป็นที่นิยมของคู่ฮันนีมูน เมาท์อาบูยังเป็นภูเขาศักดิ์สินธิ์ และยังเป็นที่แสวงบุญของผู้ที่นับถือศาสนาเชน |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (ระหว่างทาง) (มื้อที่ 16)... |
บ่าย |
ถึงเมาท์อาบู นำท่าน ชมกลุ่มวัดเชนดิลวารา ที่สลักเสลาด้วยหินอ่อนอย่างวิจิตรบรรจง ซึ่งมีจำนวน 5 วัด ตั้งอยู่บนทิวเขานอกเมือง
|
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 17)
|
ทัวร์วันที่ 7) ท่องเที่ยวเมาท์อาบู – รานัคปูร์ – อูไดปูร์ |
|
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 18)...นำท่านเดินทางสู่เมืองรานัคปูร์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 19)... |
บ่าย |
นำท่าน ชมวัดเชน เป็นวิหารของศาสนาเชน หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์แห่งอินเดีย สร้างโดยคหบดี Dharna Sah เมื่อเกือบ 500 ปีก่อน ภายในประกอบด้วยห้องโถงกว่า 24 ห้อง โดมทั้งหมด 80 โดม และเสาถึง 1,144 ต้น เสาแต่ละต้นจะถูกแกะสลักลวดลายอย่างงดงามมาก คิดเป็นพื้นที่แกะสลักกว่า 3,000 ตารางเมตร ทั้งหมดถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีเยี่ยม เมื่อสร้างวัดนี้ จำเป็นต้องสร้างเมืองขึ้นมาเพื่อเป็นที่อาศัยของคนงานนับหมื่น เมืองดังกล่าวตั้งชื่อว่า “รานัคปูร์” เพื่อเป็นเกียรติแด่ มหารานาแห่งราชาอาณาจักร ผู้อนุญาตให้สร้างวัด จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองอูไดปูร์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของแคว้นราชาสถาน และตั้งอยู่ริมทะเลสาบฟิโชล่า เป็นราชธานีแห่งที่สองของอาณาจักร Mewar อูไดปูร์เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อด้านความโรแมนติกและเพียบพร้อมไปด้วยความงามของทะเลสาบ พระราชวังและน้ำพุที่สวยงาม
|
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 20)...พักที่ PARAS MAHAL หรือเทียบเท่า |
ทัวร์วันที่ 8) ท่องเที่ยวอูไดปูร์ |
|
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 21)...นำท่าน ชม City Palace หรือพระราชวังฤดูหนาว ซึ่งส่วนหนึ่งมีการดัดแปลงกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม พระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยหินแกรนิตและหินอ่อน ภายในประดับประดาด้วยกระจกและแก้วหลากสี นับเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นราชาสถาน ปัจจุบันบางส่วนยังคงเป็นที่ประทับของราชตระกูล และมีการจัดแสดงวัตถุโบราณที่มีค่ามากมายให้ผู้คนเข้าชม
|
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 22)... |
บ่าย |
นำท่าน ชมวัดจักดิส เป็นวัดทีใหญ่ที่สุดในเมืองอุไดปูร์ และเป็นที่เคารพสักการะสำหรับชาวเมืองอุไดปูร์เป็นอย่างยิ่ง สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1651
|
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 23)...พักที่ PARAS MAHAL หรือเทียบเท่า |
ทัวร์วันที่ 9) อูไดปูร์ – เดลลี |
|
05.30 |
นำท่านเดินทางสู่สนามบินอูไดปูร์ เพื่อเดินทางสู่กรุงเดลลี |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า (อาหารกล่อง) (มื้อที่ 24)... |
08.00 |
ออกเดินทางสู่เมืองเดลลี โดยสายการบินเจ็ทแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 2628 |
09.40 |
ถึงสนามบินเดลลี นำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 25)... |
บ่าย |
นำท่านชม เมืองเดลี (New Delhi) ซึ่งมีความใหม่ตามวัฒนธรรมอังกฤษ เมืองหลวงของประเทศอินเดีย ชมศิลปะการก่อสร้างเมืองที่อังกฤษ ได้สร้างและมีการวาง ผังเมืองที่ทันสมัย และสวยงามตามวัฒนธรรมของอังกฤษและติดอับดับหนึ่ง ชมอุทยานคานธี ฌาปณสถาน ของท่าน มหาตมะคานธี ที่ ราชกาท (Raj Ghat) อนุสรณ์สถานแด่มหาบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของอินเดียและของโลก ผู้ต่อสู้ด้วยวิธีอหิงสา คนยิ่งใหญ่ผู้ใช้ชีวิตเรียบง่าย... ที่นี่เป็นที่ที่ทำพิธีเผาศพของ มหาตม คานธี จึงมีการทำอนุสรณ์สถานไว้ คานธี ไม่ปรารถนาจะมีอนุสรณ์สถานที่ใหญ่โต อนุสรณ์สถานของท่านจึงมีขนาดเล็กไม่ยิ่งใหญ่อลังการ แต่ยิ่งเล็กแต่ไหน ก็ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของชาวอินเดียและ ชมประตูเมืองอินเดีย (Indian Gate) ใช้เป็นอนุสาวรีย์ของทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง จุดไฟ อมรชีวินบูชาวิญญาณนักรบไม่เคยดับ ตั้งแต่พ.ศ.2474 (ค.ศ. 1931) จวบจนปัจจุบัน มีชื่อจารึกไว้ที่แผ่นหิน 85,000 ชื่อ มีป้ายบอกว่า อมรชีวัน หมายถึงชีวิตที่ไม่ตาย
|
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 26)...พักที่ HOTEL CITY MARK หรือเทียบเท่า |
ทัวร์วันที่ 10) เดลลี – กรุงเทพฯ |
|
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 27)... |
09.00 |
พร้อมกันที่ล็อบบี้โรงแรม นำท่านเดินทางสู่สนามบินเดลลี เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ |
12.15 |
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเจ็ทแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W064 |
18.00 |
ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ |