รับจัด Outing, Team Building, CSR, Walk Rally, สัมนานอกสถานที่, ดูงาน ในประเทศและโซนเอเชีย
สำหรับบริษัทในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล และ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง
084-160-0210 , 02-733-0683

ทัวร์พม่า-มัณฑะเลย์-อังวะ-สกายน์-มอญยอ-พุกาม-มิงกุน 4 วัน (TG)

6875-tour-myanmar-mandalay-ava-sky-mon-york-bagan-ming-kun-4-days-tg

โปรแกรมทัวร์พม่า นำท่านท่องเที่ยวสู่แดนอารยธรรม นำท่านชมพระเจดีย์ชเวซิกอง ดูวิวทิวทัศน์ตัวเมืองมัณฑะเลย์ ชมทะเลเจดีย์ที่มีความงดงามและสำคัญในพุทธศาสนา และเชิญท่านร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนีซึ่งถือเป็นการสักการะเพื่อความสิริมงคล  และในโปรแกรมทัวร์พม่านี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่อยู่ในโปรแกรมนี้

ราคาติดต่อเจ้าหน้าที่

 

download-booking-program-tour

 

download-program-tour

tour-code MMAJ16-4BKK

 

ทัวร์วันที่ 1) กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ) – มัณฑะเลย์เมืองอมรปุระสะพานอูเบ็ง – ทะเลสาบตองตะมัน – เมืองอังวะ - เมืองสกายน์

05.00

พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสายขาออก ชั้น 4 (ประตู 6) เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย (TG) Thai smile โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ท่าน

07.30

ออกเดินทางสู่ เมืองมัณฑะเลย์ โดยสายการบินไทยแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ TG 2981 (เวลาที่พม่าช้ากว่าเมืองไทย 30 นาที)

08.45

เดินทางถึงท่าอากาศยานมัณฑะเลย์ อดีตราชธานีอันรุ่งเรืองของพม่า เมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่เมืองที่ยังคงใช้ชื่อเดิมเรื่อยมาไม่มีการเปลี่ยนแปลง มัณฑะเลย์ตั้งอยู่บนที่ราบอันแห้งแล้งและเขตทำนาปลูกข้าวตามแนวลำน้ำเอยาวดีตอนบน ประชากรมากกว่า 1 ล้านคนมีลักษณะอากาศร้อน (ยกเว้นช่วงฤดูหนาว ธันวาคม–กุมภาพันธ์) ปัจจุบันมัณฑะเลย์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีนาฎศิลป์และคีตศิลป์ดีที่สุดในพม่า

จากนั้นเดินทางไปยัง เมืองอมรปุระ ซึ่งอยู่ตอนใต้ของเมืองมัณฑะเลย์ออกไป 12 กิโลเมตร พระเจ้าโบ่ต่อพญาทรงสร้างเมืองอมรปุระขึ้นในปี 1782 ใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นราชธานีที่มีอายุน้อยที่สุดเพียง 76 ปี โดยย้ายมาจากนครอังวะตามคำแนะนำของเหล่าปุโรหิตโหราจารย์ ที่หวั่นวิตกกับสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงที่พระเจ้าโบ่ต่อพญาทรงขึ้นครองราชย์ การชิงอำนาจในช่วงนั้น เริ่มจากการสังหารหมู่ การใช้ไฟกวาดล้างโจมตีหมู่บ้านป่างคะในละแวกเมืองสกายน์ คนในหมู่บ้านถูกไฟครอกตายอย่างน่าสยดสยอง เหล่าพารหมณ์จึงเห็นพ้องว่า ควรย้ายราชธานีไปอยู่ที่อมรปุระ ให้เป็นราชธานีแห่งใหม่แทน

ชม สะพานไม้อูเบ็ง (U-Ben) สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลกโดยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ชื่อว่าเสาอู เสาของสะพานใช้ไม้สักถึง 1,208 ต้นซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี ทอดข้าม ทะเลสาบคองตามัน (Toungthamon)ไปสู่ วัดจอกตอจี ซึ่งมีเจดีย์ที่สร้างตามแบบวัดอนันดาแห่งเมืองพุกาม ชมวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

เดินทางไปยัง เมืองอังวะ นำเที่ยวชมเมืองอังวะ อย่างเพลิดเพลิน ซึ่งอังวะเป็นราชธานีโบราณอีกแห่งหนึ่งของพม่า ชมประตูเมืองทางทิศเหนือที่เรียกว่า คาวเซตั่นคา เป็นประตูที่ปัจจุบันมีความสมบูรณ์ที่สุด และใช้เป็นประตูสำหรับทำพิธีสระผมในเทศกาล ติ่นจ่าน(สงกราณต์)ของชาวพม่า

ชม Watch Tower (Nan Myint) หอคอยเมืองอังวะ เป็นส่วนหนึ่งของพระราชวัง เพื่อใช้ สังเกตุการณ์ข้าศึก สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1822 หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ.1838 หอแห่งนี้เกิดการเอียงตัว แต่ได้รับการบูรณะเป็นโครงสร้างเดิม นี้เป็นหนึ่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมพม่าในช่วงต้นศตวรรษที่ 19

ชม วัดมหาอ่องเหม่ บอนซาน (Maha Aungmye Bonzan) สร้างโดยพระนางเมนุมเหสีในพระเจ้าบาจีด่อ

จากนั้นชม Barayar Monastery สร้างโดย พระเจ้าบายีดอ ปี ค.ศ.1834 ไม้สักที่มีขนาดใหญ่ สวยงามได้ซุ้มประตู บานประตูหรือหลังคา ซึ่งอาคารแห่งนี้มีเสาไม้สักรองรับน้ำหนักอยู่ถึง 267 ต้น

แล้วเดินทางสู่เมืองสกายน์

จากนั้นนำท่านผ่านชม ภูเขาสกายน์ ศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนาที่สำคัญ ท่านจะได้ชมทัศนียภาพของเมืองสกายน์ ลุ่มแม่น้ำอิระวดี เจดีย์จำนวนมากมายที่ตั้งเรียงรายอยู่บนภูเขา และริมฝั่งแม่น้ำ ประมานพุทธศตวรรษที่ 19 มีเจ้าเชื้อสายไทยใหญ่เมืองสกายน์ นาม สอยุน รวบรวมผู้คนแล้วตั้งตนเป็นกษัติย์อยู่ที่เมืองสกายน์ หรือสะแกง ที่ตั้งปัจจุบันอยู่ใหล้เนินเขาบนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำอิรวดี ห่างจากมัณฑะเลย์ไปทางทิศใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร สกายน์เป็นราชธานีได้เพียง 59 ปี ภายหลังเกิดการชิงอำนาจกัน สุดท้ายพระเจ้าโดะมินพญา ได้รับชัยชนะจึงย้านเมืองหลวงใหม่มาตั้งที่ปากแม่น้ำมิดแง ตรงที่บรรจบกับแม่น้ำอิรวดี จนเป็นที่ตั้งของเมืองอังวะในเวลาต่อมา

จากนั้นชม เจดีย์กวงมูดอร์ หรือวัดเจดีย์นมนาง สร้างโดยพระเจ้าต้าหลู่ เมื่อปี ค.ศ.1636 เพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วหรือพระทันตธาตุที่ได้มาจากลังกา เจดีย์นี้เป็นเจดีย์ทรงโอคว่ำแบบสิงหล หรือเจดีย์ทรงลังกา มีตำนานเล่าว่าองค์ระฆังทรงกลมผ่าครึ่งซีกนี้ ได้ต้นแบบมาจากถัน พระชายาคนโปรดของพระเจ้าต้าหลู่ องค์เจดีย์มีความสูง 46 เมตร เส้นรอบวงวัดได้ 274 เมตร และใช้อิฐในการก่อสร้างมากถึง 10,126,552 ก้อน

แล้วชม เจดีย์อูมินทงแส่ (Umin Thonse` Pagoda or 30 Caves Pagoda) ภายในมีพระพุทธรูป 45 องค์ประดิษฐานเรียงกันเป็นครึ่งวงกล

จากนั้นขึ้น ดอยสกายน์ เป็นภูเขาขนาดกลาง มีจุดชมวิวที่คุณสามารถมองเห็นเจดีย์ต่างๆ ที่วางตัวอยู่ตามไหล่เขา เพื่อจะได้ทำความรู้จักกับเมืองสกายน์ให้มากขึ้น เพราะไม่ว่าจะมองจากมุมไหนของด้านบน สิ่งที่เห็นได้คือ กลุ่มเจดีย์ต่างๆ ที่กระจายตัวอยู่โดยรอบ มองเรื่อยไปจนสุด ถึงแม่น้ำอิระวดี แม่น้ำสายหลักของเมืองนี้ ที่ยังคงทำหน้าที่ เลี้ยงผู้คนริมลำน้ำได้อย่างดี ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เชิญถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก ตามอัธยาศัย

ได้เวลาสมควรเดินทางกลับมัณฑะเลย์

ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ โรงแรม AYEYARWADDY / QUEEN MANDALAY / ARTHWKA HOTEL(3 ดาว) หรือเทียบเท่า

ทัวร์วันที่ 2) ท่องเที่ยวมัณฑะเลย์ – เมย์เมี่ยว – สวนดอกไม้ – เจดีย์อองทูกันทาพญา - น้ำตกพียกอก - ตลาดพื้นเมือง

07.00

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

08.00

เดินทางสู่ เมืองเมย์เมี่ยว เมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียง หรือที่รู้จักกันในนามของเมืองพินอูลวิน (PYIN OO LWIN) ด้วยระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเศษ เราก็จะได้สัมผัสถึงกลิ่นอายความเป็นผู้ดีอังกฤษที่ยังคงหลงเหลือยู่ในแดนตะวันออกแห่งนี้ ทั้งบ้านเรือนไม้อายุ ร้อยกว่าปี ที่ยังคงสีสันสวยสดงดงาม โบสถ์ทรงโคโรเนียล กลางเมือง หรือจะเป็น จตุรัสกว้างหน้าหอนาฬิกาประจำเมืองสไตล์ยุโรป สามารถสัมผัสกับบรรยากาศเย็นสบายได้ตลอดทั้งปี

นำชม สวนดอกไม้ (NATIONAL KANDAWYGI GARDEN) สวนเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1924 เดินผ่านประตูโบราณเข้ามา ชม ความงดงามของดอกไม้นานาพันธ์

นำทุกท่านขึ้นลิฟท์สู่ชั้น 10 ภาพเบื้องหน้าเมื่อแรกเห็น คือ สีสันที่แต่งแต้มอยู่บน ภาพวาดผืนใหญ่ ทั้ง แดง ชมพู เหลือง ส้ม เป็นจุดเล็กๆ ตัดกับสีเขียวอ่อน และ เข้ม ไล่สีกันอย่างงดงาม มองเรื่อยออกไป จะเป็นทะเลสาบอันกว้างใหญ่ ของ ทะเลสาบ กันดอยี เป็นสวนสวย หลังจากสูดอากาศบริสุทธิ์กันเต็มที่แล้ว เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศสไตล์ยุโรป เชิญทุกท่าน นั่งรถม้า ชมเมือง

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย

นำท่านชม เจดีย์อองทูกันทาพญา ที่ว่ากันว่า มีเรื่องเล่าที่น่าอัศจรรย์เกี่ยวกับวัดนี้อยู่ว่า... ขณะขนส่งพระพุทธรูปหินอ่อนแกะสลัก ที่มีน้ำหนักถึง 17 ตัน แต่ระหว่างทางรถบรรทุกได้เกิดอุบัติเหตุ แม้จะนำรถเครนมายก เท่าไหร่ก็ยกไม่ขึ้นและพระผู้ใหญ่ในเมืองฝันว่า พระพุทธรูปองค์นี้ประสงค์ที่จะประดิษฐานอยู่ที่นี่ จึงได้สร้างวัดและอัญเชิญท่านมาเป็นพระประธานของวัดแห่งนี้ซึ่งเป็นที่เลื่อมใส ศรัทธามากของผู้คนในเมือง...ไหว้พระขอพรกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ก็เดินทางกันต่อสู่ น้ำตกพียกอก (PWE GAUK FALL) หรือน้ำตกเบ สัมผัสบรรยากาศความสดชื่น และ ชมความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ ได้สักพักก็เหลือบเห็นของเล่นแปลกๆที่วางอยู่ข้างน้ำตก นั่นคือ!! ม้าหมุน แต่ที่น่าสนใจคือ เป็นม้าหมุนพลังงานน้ำตก ซึ่งเป็นความชาญฉลาดของคนพื้นเมืองที่ใช้ธรรมชาติมาเป็นเครื่องช่วยทุ่นแรง ที่ช่วยให้ของเล่นเด็กๆธรรมดาๆชิ้นหนึ่ง กลายเป็นสิ่งที่ผู้คนที่มาเยี่ยมเยียนน้ำตกนี้ให้ความสนใจ
จากนั้นอิสระให้ทดลองเดินชม ตลาดพื้นเมือง ที่เต็มไปด้วยสินค้าพื้นเมืองนานาชนิต และสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยได้เป็นอย่างดี นั่นคือ สตอเบอร์รี่ ลูกอวบอ้วน ในราคาย่อมเยาว์หรือจะเป็นไวน์พื้นเมือง ที่มีทั้งไวน์ขาวและไวน์แดง ให้เลือกตามความชอบใจ

ได้เวลาสมควรอำลาเมืองเมย์เมี่ยวกลับมัณฑะเลย์

19.00

รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

หลังอาหารนำเข้าสู่ที่พัก ณ โรงแรม AYEYARWADDY / QUEEN MANDALAY / ARTHWKA HOTEL(3 ดาว) หรือเทียบเท่า

ทัวร์วันที่ 3) ท่องเที่ยวมัณฑะเลย์ – ล่องเรือแม่น้ำอิรวดี – หมู่บ้านมิงกุน – เจดีย์มิงกุน – ระฆังยักษ์ – พระราชวังมัณฑะเลย์ - วัดกุโสดอร์-วิหารชเวนันดอ-ภูเขามัณฑะเลย์ฮิลล์

07.00

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

08.00

นำท่าน ล่องเรือแม่น้ำอิระวดี กับบรรยากาศสบายๆ เรือล่องแม่น้ำอิระวดี ทวนน้ำไป หมู่บ้านมิงกุน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอมรปุระ แต่อยู่บนเกาะกลางลำน้ำอิระวดี ระหว่างทางจะได้เห็นหมู่บ้านอิระวดีที่มีลักษณะเป็น “กึ่งบ้านกึ่งแพ” สักพักเรือแล่นเข้าจอดเทียบท่า เพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทาง คือ เจดีย์มิงกุน พระเจ้าปดุง มีความตั้งใจว่าจะสร้างเจดีย์นี้ให้ยิ่งใหญ่และอลังการที่สุด เพื่อมุ่งหวังให้ยิ่งใหญ่เทียบเท่ามหาเจดีย์ในพุกาม แต่มหาเจดีย์อันยิ่งใหญ่นี้ สำเร็จแค่เพียงฐานเท่านั้น เดินชมความยิ่งใหญ่โดยรอบแล้ว ชม เจดีย์เมียะเต็งดาน หรือ เจดีย์สินพยุเม ความงดงามของลวดลายปูนปั้น ซ้อนตัวกัน 7 ชั้น มองดูคล้ายคลื่นที่กำลังม้วน อยู่ในทะเลอันสงบ แทนเทือกเขาทั้ง 7 ตามคติจักรวาล สร้างโดยพระเจ้าบากะยีดอว์ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักต่อพระมหาเทวีชินพิวเม ซึ่งถึงแก่พิราลัยก่อนเวลาอันควร และได้รับสมญานามว่า “ทัชมาฮาล แห่งลุ่มน้ำอิระวดี” ไม่ไกลจากเจดีย์แห่งนี้ ก็จะพบกับ ระฆังสำริดแห่งมิงกุน ระฆังยักษ์ที่มีขนาดเล็กรองลงมาจาก ระฆังแห่งพระราชวังเครมลินในกรุงมอสโคว์เพียงใบเดียวเท่านั้น แต่ว่า ที่เครมลินได้แตกร้าวไปแล้ว ด้วยน้ำหนัก 90 ตัน สูง 4 เมตร ปากระฆังกว้างถึง 5 เมตร

ได้เวลาสมควรเดินทางโดยเรือลำเดิมเพื่อกลับมายังฝั่ง

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย

เดินทางสู่ พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace) พระราชวังหลวงของ พระเจ้ามิงดง สร้างขึ้นตามผังภูมิจักรวาลแบบพราหมณ์ปนพุทธ โดยสมมุติให้เป็นศูนย์กลางของโลก (เขาพระสุเมรุ) แผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีกำแพงล้อมร้อบทั้งสี่ทิศ แต่ละทิศมีประตูทางเข้า 3 ประตู รวมทั้งสิ้น 12 ประตู ที่ประตูทำสัญลักษณ์จักรราศีประดับเอาไว้ ใจกลางพระราชวังเป็นห้องพระมหาปราสาท (ห้องสีหาสนบัลลังก์) เป็น ปยัตตั้ด (ยอดปราสาท) หุ้มด้วยแผ่นทองซ้อนกัน เจ็ดชั้นสูง 78 เมตร เชื่อกันว่า ความเป็นไปในจักรวาลจะลอดผ่านยอดปราสาท ตรงลงมาสู่พระแท่นราชบัลลังก์ ช่วยให้กษัตริย์ตัดสินพระทัยในเรื่องต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง นักมานุษยวิทยา ชื่อ ชาร์ส เคเยส กล่าวถึงพระราชวังไว้ในรายงาน ความว่า “ กำแพงวังยาวเกือบ 2 กม. มีคูน้ำล้อมรอบ พ้นกำแพงออกไปเป็นบ้านเรือนของสามัญชน และชาวต่างชาติ ตลาด โรงงานของช่างฝีมือ และร้านรวงต่างๆ แต่กำแพงเมืองพุทธไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อให้เป็นปราการป้องกันข้าศึก อย่างของจีน และยุโรปในสมัยกลาง แต่สร้างไว้ เพื่อแสดงว่าพื้นที่ในวงล้อมของกำแพงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากกว่า ปัจจุบัน พระราชวังที่บูรณะขึ้นใหม่ ตั้งอยู่ในเขตป้อมมัณฑะเลย์ ของทางกองทัพ

จากนั้นนำชม วิหารชเวนันดอร์ เคยตั้งอยู่ในพระราชวังหลวง เป็นที่ประทับนั่งสมาธิของพระเจ้ามินดง เพียงหลังเดียวที่เหลือรอดมาได้ จนสิ้นพระชนม์ที่วิหารแห่งนี้ พระเจ้าตี่ปอก็โปรดฯ ให้ย้ายมาไว้ยังที่ตั้งปัจจุบัน

นำท่านสู่ วัดกุโสดอร์ ใจกลางวัดเป็นเจดีย์มหาล่อกะมาระเส่ง (มหาโลกมารซิน) สูง 30 เมตร ซึ่งจำลองแบบมาจากพระมหาเจดีย์ชเวสิกองแห่งเมืองพุกาม เป็นวัดที่พระเจ้ามินดงสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 5 และ ถือเป็นครั้งแรกที่มีการจารึกลงบนหินอ่อน 729 แผ่นเป็นภาษาบาลี ทั้งหมด จารึกพระไตรปิฎก 84,000 พระธรรมขันธ์ และต้องใช้พระสงค์ถึง 2400 รูปในการคัดลอก และใช้เวลานานถึง หกเดือนกว่าจะแล้วเสร็จ พระไตยปิฏกที่ชำระขึ้นในครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็น “พระไตรปิฎกเล่มใหญ่ที่สุดในโลก”

จากนั้นเดินทางไปยัง มัณฑะเลย์ฮิลล์ ตั้งอยู่กลางเมืองมัณฑะเลย์ สูง 236 เมตร ปากทางขึ้นมารูปปั้นสิงห์ขนาดใหญ่สองตัว เป็นจุดชมวิวสวยงามและมีปูชนียสถานสำคัญๆ ให้นักท่องเที่ยวไดชม ทั้งดูธรรมชาติ ดูทิวทัศน์อันสวยงามที่สุด และสามรถมองเมืองมัณฑะเลย์ ได้เกือบทั้งหมด พร้อมทั้งชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม

ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

หลังอาหารนำเข้าที่พัก ณ โรงแรม AYEYARWADDY / QUEEN MANDALAY / ARTHWKA HOTEL(3 ดาว) หรือเทียบเท่า

ทัวร์วันที่ 4) พิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนีมัณฑะเลย์ – กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)

04.00

นำท่านไปนมัสการ พระมหามัยมุนี อันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด 1 ใน 5 แห่งของพม่า ถือเป็นต้นแบบพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ทรงเครื่องกษัตริย์ที่ได้รับการขนานนามว่า “พระพุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม” ที่พระเจ้ากรุงยะไข่ทรงหล่อขึ้นที่เมืองธรรมวดี เมื่อปี พ.ศ. 689 สูง 12 ฟุต 7 นิ้ว หุ้มด้วยทองคำเปลวหนา2นิ้ว ทรงเครื่องประดับทองปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 9 ฟุต ในปี พ.ศ.2327 พระเจ้าปดุงได้สร้างวัดมหามุนีหรือวัดยะไข่(วัดอาระกัน หรือวัดพยาจี) เพื่อประดิษฐานพระมหามัยมุนี และในปี พ.ศ.2422 สมัยพระเจ้า สีปอ ก่อนจะเสียเมืองพม่าให้อังกฤษได้เกิดไฟไหม้วัดทองคำ จึงทำให้ทองคำเปลวที่ปิดพระละลายเก็บเนื้อทองได้น้ำหนักถึง 700 บาท ต่อมาในปี พ.ศ.2426 ชาวพม่าได้เรี่ยไรเงินเพื่อบูรณะวัดขึ้นใหม่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมโดยสายการออกแบบของช่างชาวอิตาลีจึงนับได้ว่าเป็นวัดที่สร้างใหม่ที่สุดแต่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สุดในเมืองพม่า โดยรอบๆ ระเบียงเจดีย์ยังมีโบราณวัตถุที่นำไปจากกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งกรุงแตกครั้งที่ 1 พร้อมทั้งร่วมพิธีการอันสำคัญล้างพระพักตร์ถือเป็นการสักการะเพื่อความสิริมงคล

07.00

รับประทานอาหารเช้า ณ แบบกล่อง

ได้เวลาสมควรอำลาเมืองมัณฑะเลย์เดินทางสู่สนามบิน

09.35

เหินฟ้ากลับ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทย(TG) Thai smile เที่ยวบินที่ TG 2982

11.45

ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ โดยสวัสดิภาพ..พร้อมความประทับใจ

tour-condition

อัตราค่าบริการดังกล่าวรวม
1. ตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพฯ–มัณฑะเลย์-กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย และภาษีสนามบิน
2. วีซ่าพม่า
3. น้ำหนักสัมภาระท่านละไม่เกิน 15 กิโลกรัม
4. ห้องพักโรงแรม 3 คืน ตามระบุไว้ในรายการ
5. อาหารทุกมื้อที่ระบุไว้ในรายการ
6. ไกด์พม่าพูดไทยรอต้อนรับที่สนามบินเมาะละแหม่ง และหัวหน้าทัวร์ไทย
7. ธรรมเนียมค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว
8. พาหนะตลอดการเดินทาง
9. บริการน้ำดื่ม-ผ้าเย็น
10. ประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ท่านละไม่เกิน 1,000,000 บาท(ค่ารักษาพยาบาล 500,000 บาท)ทั้งนี้ ย่อมอยู่ในข้อจำกัดที่มีการตกลงไว้กับบริษัทประกันชีวิต
อัตราค่าบริการดังกล่าวไม่รวม
1. ทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและพนักงานขับรถ 400 บาท /นักท่องเที่ยว 1 ท่าน (เก็บเพิ่มจากราคาทัวร์)
2. น้ำหนักของกระเป๋าเดินทางในกรณีที่เกินกว่าสายการบินกำหนด
3. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุไว้ เช่น ค่าเครื่องดื่ม, ค่าโทรศัพท์, ซักรีด
4. อาหารที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
5. สำหรับราคานี้บริษัทฯ จะไม่รวมค่าภาษีท่องเที่ยวหากมีการเก็บเพิ่ม
6. ค่าทำใบอนุญาตที่กลับเข้าประเทศของคนต่างชาติ หรือ คนต่างด้าว
7. ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (กรณีต้องการใบกำกับภาษี) และค่าภาษีการบริการหัก ณ ที่จ่าย 3%
เอกสารใช้ยื่นวีซ่า
1. หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานเหลือเกิน 6 เดือนหลังจากการเดินทาง
2. รูปถ่ายหน้าตรง 2 นิ้ว จำนวน 3 รูปพื้นหลังสีขาวเท่านั้น
หมายเหตุกำหนดการเดินทางนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมของหมู่คณะ เวลาสภาพการจราจรและสภาพภูมิอากาศในขณะนั้นตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้จัดสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ถือเอาความปลอดภัยและประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
การจองทัวร์ กรุณามัดจำค่าทัวร์ท่านละ 8,000.-บาท ส่วนที่เหลือชำระก่อนเดินทาง 15 วัน
method-of-payment

ค้นหาที่ท่องเที่ยว


Thailand Tourism Standard

ทัวร์แนะนำ

ผู้เข้าชม

มี 661 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์