รับจัด Outing, Team Building, CSR, Walk Rally, สัมนานอกสถานที่, ดูงาน ในประเทศและโซนเอเชีย
สำหรับบริษัทในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล และ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง
084-160-0210 , 02-733-0683

วัดใหม่สุวันนะพูมาราม ลาว

tour-wat-mai-sou-van-na-phou-maram-laos

วัดใหม่สุวันนะพูมาราม
จากตลาดม้งบริเวณสี่แยกกลางเมือง เดินขึ้นไปทางทิศเหนือจะพบอาคารสถานีวิทยุกระจายเสียง เยื้องกันเป็นธนาคารล้านช้าง บริเวณนี้เรียกว่าย่านลาชินี เลยสถานีวิทยุไปเป็นอาคารยุคฝรั่งเศสของสำนักงานห้องกานวัดทะนะทำ หรือสำนักงานของกระทรวงวัฒนธรรมประจำแขวงหลวงพระบางซึ่งร่มรื่นอยู่ใต้ร่มเงาหูกวาง ต่อมาทางซ้ายมือเป็นใต้ถุนสูง เรือนหลังนี้เป็นเรือนเก่าชุดแรก ๆ ซึ่งกำลังจะซ่อมแซมขึ้นใหม่ตามโครงการของห้องการมอระดก โดยร่วมมือกับองค์การยูเนสโก

tour-wat-mai-sou-van-na-phou-maram-laos

เป็นวัดเก่า วัดใหม่สุวันนะพูมาฮามหรือ วัดใหม่ ที่คนลาวเรียกกันแบบสั้นๆ สันนิษฐานว่าสร้างโดยพระเจ้าอนุรุทในปี พ.ศ. 2337 เดิมชื่อวัดสุวันพุมมาราม เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชของลาวสมัยหนึ่ง พระอุโบสถสร้างด้วยไม้ กำแพงระเบียงหน้าอร่ามงดงามด้วยงานรดนํ้าปิดทองเรื่องรามายณะและพระเวสสันดรชาดก วัดนี้มีอุโบสถที่สวยงาม ด้วยศิลปะแบบอูบมุง อดีตเป็นวัดที่ประทับของพระสังฆราชตันแห่งอาณาจักรล้านช้าง วัดแห่งนี้เคยเป็นที่ประดิษฐานของพระบาง และใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาต่อหน้าพระบางอีกด้วย ปัจจุบันนี้ก็ยังใช้เป็นที่ให้ประชาชนมาสรงน้ำพระบางในวันงานบุญปีใหม่ (วันสงกรานต์)

วัดใหม่สุวันนะพูมารามสร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๓๓๗ ในรัชสมัยพระเจ้าอนุรุทธราช ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๓๖๔ ตรงกับสมัยพระเจ้ามันธาตุราชได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดนี้ใหม่ พระธาตุ อูบมุง และหอขวางที่เห็นอยู่ในปัจจุบันก็สร้างขึ้นในสมัยนี้ เมื่อปฏิสังขรณ์แล้วได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดใหม่สุวันนะพูมาราม” แต่ชาวบ้านทั่วไปนิยมเรียกสั้น ๆ ว่า “วัดใหม่” ใน พ.ศ. ๒๔๓๗ สมัยพระเจ้าสักกะรินได้อัญเชิญพระบางจากวัดวิชุนมาประดิษฐานที่วัดใหม่ แล้วใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาต่อหน้าองค์พระบาง

จุดเด่นของวัดคือ หลังคา 5 ชั้นที่ลดหลั่นกันอย่างสวยงามของทรงหลวงพระบาง ทรงเชียงขวาง ทรงไทลื้อ ผนังด้านในตกแต่งด้วยพระพิมพ์ปิดทององค์เล็กๆนับหมื่นองค์บนผนังสีแดงชาด วัดนี้มีโบสถ์งดงามด้วยศิลปะเครื่องไม้แบบหลวงพระบางเรื่องรามายณะและพระเวสสันดรชาดก ฝีมือการแกะสลักไม้ของเพียตัน หนึ่งในสุดยอดช่างของลาวอันสวยงาม

สิมหรือพระอุโบสถสร้างด้วยไม้ กำแพงระเบียงด้านหน้าอร่ามงดงามด้วยงานรดน้ำปิดทอง เป็นเรื่องรามายณะและพระเวสสันดรชาดก ในช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่ลาว (สงกรานต์) ทางการจะอัญเชิญพระบางจากพระราชวังหลวงมาประดิษฐานที่วัดนี้เพื่อให้ประชาชนได้สักการะและสรงน้ำ

วัดที่ใหญ่ที่สุดพระราชวัง ชมหอพระบาง เคยเป็นที่ประทับของพระสังฆราชลาว และเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบางมาก่อนด้วย

ในช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่ลาว (สงกรานต์) ทางการจะอัญเชิญพระบางจากพระราชวังหลวงมาประดิษฐานที่วัดนี้เพื่อให้ประชาชนได้สักการะและสรงนํ้า (ตั้งอยู่ใกล้โรงแรมพูสีและที่ทำการไปรษณีย์)

- วัดใหม่ฯ เปิดทุกวัน เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๖.๐๐ น.
- บัตรเข้าชมราคา ๑๐,๐๐๐ กีบ

วัดใหม่เป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งของหลวงพระบาง นอกจากจะเป็นวัดซึ่งสมเด็จพระยอดแก้ว พระสังฆราชพระองค์สุดท้ายของลาวเคยประทับแล้ว ในช่วงสงกรานต์จะอัญเชิญพระบางจากหอพิพิธภัณฑ์เมืองหลวงพระบางมาไว้ที่วัดใหม่เป็นเวลา ๓ วัน เพื่อให้ประชาชนได้สรงน้ำ

เลยจากวัดไปด้านขวามือคือพูสี ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเมืองหลวงพระบาง ตรงเชิงเขาทางขวามือของบันไดทางขึ้นมีสิมเล็ก ๆ อยู่หลังหนึ่ง คือสิมของวัดป่าฮวก

tour-wat-mai-sou-van-na-phou-maram-laos

สิ่งน่าสนใจ
บานประตูสิมวัดใหม่
สิมวัดใหม่ลักษณะคล้ายกับวัดวิชุน บานประตูเป็นฝีมือแกะสลักไม้แบบเชียงขวาง ด้านข้างเป็นลวดลายแกะสลักเรื่องพระเวสสันดร โดยฝีมือของเพี้ยตันศิลปินแห่งชาติของลาว ซึ่งมีฝีไม้ลายมือโดดเด่นด้านการแกะสลักไม้ รูปแบบงานแกะสลักของเพี้ยตันได้รับการยกย่องให้เป็นสกุลช่างสายหนึ่งของงานศิลปะลาว

วัดหัวเซียง วัดมะหาทาด และบริเวณน้ำพุ ลาว

tour-wat-hua-xiang-wat-ma-ha-tad-and-area-the-fountain-laos tour-wat-hua-xiang-wat-ma-ha-tad-and-area-the-fountain-laos

วัดหัวเซียง วัดมะหาทาด และบริเวณน้ำพุ
จากสี่แยกกลางเมือง หากมุ่งหน้าลงทางทิศใต้ตามถนนเส้นกลางเมือง ทางซ้ายมือมีวัดติดกันอยู่สองวัด วัดแรกคือวัดหัวเซียง ซึ่งสังเกตจดจำง่ายจากบันไดทางขึ้นวัดที่เป็นรูปพญานาคเจ็ดเศียรขนาบอยู่สองข้าง ถัดไปคือวัดมะหาทาด หรือชาวบ้านเรียกว่า วัดทาดน้อย วัดนี้สร้างในพ.ศ. ๒๐๙๑ สมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ชื่อของวัดมีที่มาจากเจดีย์องค์ใหญ่หลังสิมซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ครั้งสร้างวัด เจดีย์องค์นี้เป็นที่เก็บอัฐิของพระนางยอดคำทิพย์ พระมารดาของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช

เลยจากวัดมะหาทาดไปจะถึงน้ำพุที่มีรูปปั้นพระแม่ธรณีบีบมวยผมอยู่กลางสระน้ำขนาดย่อม และอยู่เยื้องกับทางเข้าโรงแรมสุวันนะพูม บริเวณนี้เรียกว่าบ้านหัวเซียง ขวามือเป็นร้านขายของที่ระลึกหลายร้าน

tour-wat-hua-xiang-wat-ma-ha-tad-and-area-the-fountain-laos

สิ่งน่าสนใจ
ราวเทียน วัดมะหาทาด
วัดมะหาทาดปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.๒๔๕๓ โดยเจ้ามหาอุปราชบุญคง ภายในสิมแบบล้านช้างมีราวเทียนรูปนาค ๒๔ ตัว ฝีมือการแกะวิจิตรงดงาม เจ้ามหาอุปราชบุญคงมอบให้ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๖๐

ธาตุเจ้าเพชรราช
หน้าสิมของวัดมะหาทาดมีเจดีย์ใหญ่บรรจุอัฐิของเจ้าเพชรราชรัตนวงศา อดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศ และถือเป็นรัฐบุรุษของประเทศลาวยุคใหม่ด้วย

เจดีย์วัดมะหาทาด
ในจารึกวัดมะหาทาดกล่าวว่า “พระราชไอยกามหาเทวเจ้า” ยายของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช มเหสีของพระเมืองเกษเกล้ากษัตริย์เชียงใหม่ เป็นผู้สร้างเจดีย์องค์นี้ ลักษณะของเจดีย์ต่างจากเจดีย์ศิลปะล้านช้างทั่วไป แต่กลับเหมือนกับเจดีย์วัดโลกโมฬีที่เมืองเชียงใหม่ ซึ่งบรรจุพระอัฐิของพระเมืองเกษเกล้า

วัดหนองสีคูนเมือง ลาว

tour-wat-nong-si-khun-muang-laos

วัดหนองสีคูนเมือง
อยู่ที่บ้านวัดหนอง แยกจากถนนสีสะหว่างวงสองด้านข้างของโรงแรมวิลล่าสันติ เดิมชื่อ “วัดสีคูนเมือง” สร้างแด่ปี พ.ศ. ๒๒๗๒ เป็นที่ประดิษฐาน “พระเจ้าองค์แสน” พระพุทธรูปสำคัญของเมือง ที่ได้ชื่อเช่นนี้เนื่องจากมีน้ำหนัก ๑ แสน (ประมาณ๗๒๐ กิโลกรัม) พระเจ้าองค์แสนเป็นพระพุทธรูปศิลปะแบบเชียงแสนตามตำนานกล่าวว่าลอยตามแม่น้ำโขงมาแต่เมืองเชียงแสน และมาขึ้นที่เมืองหลวงพระบาง ชาวหลวงพระบางเชื่อถือว่าพระเจ้าองค์แสนมีความศักดิ์สิทธิ์มาก เนื่องจากในปี พ.ศ. ๒๓๑๗ เกิดไฟไหม้สิมจนหมดสิ้น แต่องค์พระพุทธรูปซึ่งเป็นทองสำริดมิได้ไหม้ไปด้วย ชาวบ้านนิยมมาบนบานขอสิ่งต่าง ๆ จากพระพุทธรูปนี้เสมอ

ในปี พ.ศ. ๒๓๔๗ ชาวบ้านได้ช่วยกันบูรณปฏิสังขรณ์วัดขึ้นใหม่และได้รวมพื้นที่หนองน้ำใกล้ ๆ เข้ามาในเขตพัทธสีมาด้วย จึงเรียกชื่อใหม่ว่า “วัดหนอง” หรือ “วัดหนองสีคูนเมือง”

tour-wat-nong-si-khun-muang-laos

สิ่งน่าสนใจ
สิมวัดหนองสีคูนเมือง
วัดหนองได้รับการอุปถัมภ์จากผู้ที่เป็นเชื้อพระวงศ์เก่า ที่มีความใหญ่โตโอ่อ่า สิมที่เห็นปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ด้วยรูแบบศิลปะเวียงจันทน์ ซึ่งชาวบ้านศรัทธาบูรณะขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๐๗ หน้าต่างไม้แกะสลักมีความงดงามวิจิตรไม่น้อย ฝีมือสกุลช่าง

วัดแสน ลาว

tour-wat-saen-laos

วัดแสน หรือวัดแสนสุขาราม (Wat Saen)
ชาวหลวงพระบางมักเรียกกันสั้นๆว่า วัดแสน” อยู่บนถนนสีสะหว่างวง บนเส้นทางไปวัดเชียงทอง สร้างเมื่อปีพ.ศ. ๒๒๖๑ ในสมัยพระเจ้ากิ่งกิดสะราช ถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งของหลวงพระบาง วัดนี้บูรณะมาหลายครั้ง ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๕ และครั้งหลังสุดในปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งเป็นการบูรณะครั้งใหญ่ มีการประดับดอกดวงทำด้วยมุกประดับทองคำที่สวยสดงดงามตามระเบียงและพัทธสีมา ศิลปะการตกแต่งนี้เป็นหลวงพระบางในศตวรรษที่ ๒๐

เป็นวัดแบบศิลปกรรมไทย สร้างเมื่อปีพ.ศ 2261 ในแผ่นดินของเจ้ากิ่งกฤษราช ตามประวัติเล่าว่าชื่อของวัดมาจากเงินจำนวน 100,000 กีบ ที่มีผู้บริจาคให้เป็นทุนเริ่มสร้างวัดแสนแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง ใกล้กับโรงแรมวิลล่าสันติบนถนนสักกะริน (ถนนสักรินทร์)

ด้านนอกสิมเป็นโรงเก็บเืรือแข่งหรือเรือซ่วงซึ่งมีอายุสุดของหลวงพระบาง และยังใช้้แข่งขันในงานบุญเดือน ๙ อยู่จนปัจจุบันติดกับโรงเก็บเรือแข่งเป็นหอพระพุทธรูปยืนปางเปิดโลก กับพระอัฏฐารสที่วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย คนหลวงพระบางเรียกพระพุทธรูปนี้ว่า “พะเจ้า ๑๘ สอก” เนื่องจากมีความสูงวัดได้ ๑๘ ศอก

สิ่งน่าสนใจ
สิมวัดแสนสุขาราม
สิมของวัดแสนตกแต่งลวดลายพอกคำอย่างวิจิตร ตัวสิมเป็นศิลปะหลวงพระบางตอนกลางศตวรรษที่ ๒๐ สังเกตได้จากสามเหลี่ยมและยอดเสารูปกลีบบัว

วัดมะโนลม ลาว

tour-wat-ma-no-lom-laos

วัดมะโนลม หรือวัดมโนรมย์ (Wat Manolom)
อยู่บริเวณบ้านมะโน เดินจากสี่แยกคอกวัวไปทางทิศใต้ผ่านที่ทำการของสายการบินลาว หรือมาจากถนนข้างโรงแรมสุวันนะพูมก็ได้ วัดมะโนรมเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดซึ่งยังเหลืออยู่ในหลวงพระบาง วัดนี้สร้างใน พ.ศ. ๑๙๑๕ โดยพระเจ้าสามแสนไท สร้างทับลงบนวัดเก่าชื่อว่า “วัดเชียงกลาง” ซึ่งคณะสังฆทูตจากกัมพูชาเป็นผู้สร้างไว้ตั้งแต่ครั้งเดินทางเข้ามาเผยแพร่พุทธศาสนาบนแผ่นดินล้านช้างในสมัยเจ้าฟ้างุ้ม ถือเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดในหลวงพระบาง และเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบางในระหว่างปี พ.ศ. ๒๐๔๕-๒๐๕๖

สันนิษฐานว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดในหลวงพระบาง สร้างในราวปีพ.ศ 1918 พระประธานองค์ใหญ่ในโบสถ์ หล่อด้วยสำริด หนักประมาณ 2 ตัน ถูกทำลายเสียหายในสงครามแย่งชิงดินแดนระหว่างไทย - ฝรั่งเศส ต่อมาทางการลาวหล่อซีเมนต์ซ่อมแซม ส่วนแขนที่ชำรุด

สิ่งน่าสนใจ
พระประธานวัดมะโนรม
พระประธานภายในสิมวัดมะโนรมเป็นพระพุทธรูปสำริดซึ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศลาว องค์พระพุทธรูปหล่อด้วยสำริด สูงประมาณ ๖ เมตร และหนักกว่า ๒ ตัน หล่อขึ้นพร้อมกับการสร้างวัดพระพุทธรูปองค์นี้เป็นศิลปะสุโขทัย เชื่อว่าช่างที่ทำการหล่อเป็นช่างซึ่งมาจากกรุงสุโขทัย

ในสมัยทัพฮ่อเข้าปล้นเผาเมืองหลวงพระบาง วัดมะโนรมก็ถูกทำลายเช่นกัน พระประธานในสิมถูกพวกฮ่อตัดแขนทั้งสองข้างออก กล่าวกันว่าพวกฮ่อนึกว่าเป็นพระทองคำ แขนข้างหนึ่งถูกพวกฮ่อนำไป ส่วนอีกข้างพวกฮ่อขนไปไม่ทัน ด้วยเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรียกกองทัพไทยมาถึงหลวงพระบางพอดีจึงทิ้งไว้ที่วัด ทุกวันนี่แขนข้างดังกล่าวก็ยังวางอยู่ข้างองค์พระประธาน

ในปี พ.ศ.๒๕๑๕ ชาวหลวงพระบางช่วยกันสมทบทุนก่อสร้างสิมขึ้นใหม่ พร้อมทั้งหล่อแขนทั้งสองข้างของพระพุทธรูปเติมต่อให้สมบูรณ์ดังที่เห็นในปัจจุบัน

เมื่อเข้ามาชมภายในสิมและกราบนมัสการพระประธานแล้ว ลองถามพระหรือเณรถึงเรื่อง “พะเจ้าแขนกุ๊ด” ท่านอาจไปนำรูปเก่าสมัยที่ยังไม่ได้ต่อแขนพระมาให้ดู

วัดป่าโพนเพา ลาว

tour-wat-pa-phon-pow-laos

วัดป่าโพนเพา
เป็นจุดท่องเที่ยวซึ่งผู้มาเยือนหลวงพระบางมักถูกกำชับว่า “พลาดไม่ได้” หมู่บ้านนี้อยู่ห่างจากศูนย์กลางเมืองหลวงพระบางเพียงแค่ ๕ กิโลเมตร โดยแยกจากเส้นทางหมายเลข ๑๓ เหนือก่อนถึงสะพานข้ามแม่น้ำคานเพียงเล็กน้อย ตรงทางแยกนี้สามารถแวะเข้าไปชมวัดป่าโพนเพา ซึ่งถึงแม้จะเป็นวัดอายุไม่นานนัก แต่ก็เป็นจุดที่โดดเด่นสามารถมองเห็นได้จากตัวเมืองหลวงพระบาง เนื่องจากวัดนี้อยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ ซึ่งบนยอดเนินได้สร้างเจดีย์ีสีทองอร่ามชื่อ สันติเจดีย์ ไว้ เมื่อขึ้นไปอยู่บนพูสีแล้วมองมายังทิศตะวันออก จะเห็นสันติเจดีย์สีทองตัดกับฉากหลังสีเขียวของภูซวงได้อย่างชัดเจน

สิ่งน่าสนใจ
สันติเจดีย์ที่วัดป่าโพนเพา
อยู่ปากทางเข้าบ้านผานม เจดีย์นี้สร้างในปี พ.ศ.๒๕๓๑ วัดป่าโพนเพาสร้างโดยพระอาจารย์สายสมุทร ทุกวันนี้เป็นอีกสถานที่หนึ่งซึ่งนักท่องเที่ยวมักแวะมาชม เนื่องจากสามารถมองเห็นเมืองหลวงพระบางในมุมที่สวยงาม

วัดป่าฝาง ลาว

tour-wat-pa-fang-laos

วัดป่าฝาง
หรืออีกชื่อหนึ่งว่า วัดเซียงงาม สร้างในสมัยพระเจ้าอนุรุทธราช (พ.ศ. ๒๓๒๒-๒๓๖๐) เป็นวัดศิลปะแบบล้านช้างที่ชัดเจนมาก ปัจจุบันได้รับการบูรณะขึ้นใหม่แล้วโดยห้องกานมอละดก เป็นโครงการที่ ๒ ต่อจากเฮือนมรดกเชียงม่วน

วัดป่าไผ่ ลาว

tour-wat-pa-phai-laos tour-wat-pa-phai-laos

วัดป่าไผ่
เดิมบริเวณวัดเป็นป่าไผ่ในเขตบ้านหอเจ้าฟ้าเหลือม ในสมัยพระเจ้าอนุรุทธราชมีการสร้างวัดขึ้นตรงป่าไผ่นี้ จึงเรียกชื่อว่าวัดป่าไผ่ และเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านเป็นบ้านป่าไผ่ตามไปด้วย สิมเป็นศิลปะแบบหลังพระบาง ด้านหน้ามีภาพจิตรกรรมเกี่ยวกับวิถีชีวิตชาวล้านช้าง

สิ่งน่าสนใจ
จิตรกรรมฝาผนังวัดปาไผ่
ภายในสิมวัดป่าไผ่มีงานจิตรกรรมฝาผนังที่ใช้้การลงรักปิดทองหรือพอกคำ เป็นเรื่องราวในชาดกต่าง ๆ งานลงรักปิดทองนี้นับว่าสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในบรรดาวัดทั้งหลายของหลวงพระบาง น่าเสียดายที่หลังคาสิมรั่ว ยามฝนตกน้ำซึมลงมาจนทองคำเปลวที่ปิดไว้บางจุดหลุดล่อน แต่ยังไม่มีหน่วยงานใด ๆ มาให้การดูแล

วัดเซียงแมน ลาว

tour-wat-chiang-man-laos

วัดเซียงแมน หรือวัดเชียงแมน (Wat Chieng Man)
- เปิดทุกวัน เวลา ๐๘.๐๐-๑๖.๐๐ น
- บัตรเข้าชมพระธาตุจอมเพชรและวัดร่องคูน ราคาแห่งละ ๑๐,๐๐๐ กีบ

จากตัวเมืองหลวงพระบาง หากข้ามฟากแม่น้ำโขงไปยังฝั่งตรงกันข้ามจะเป็นเมืองเชียงแมน ซึ่งเสมือนเมืองคู่แฝดของหลวงพระบาง เป็นแหล่งผลิตพืชผักอาหารส่งขายในตลาดเมืองหลวงพระบางมาแต่โบราณ เมื่อครั้งสมัยสงครามอินโดจีนระหว่างไทยกับฝรั่งเศสในปี พ.ศ. ๒๔๘๔ กองทัพไทยยึดดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงคืนจากฝรั่งเศสแล้วได้เปลี่ยนชื่อแขวงไซยะบุรีเป็นจังหวัดล้านช้าง เมืองเชียงแมนขณะนั้นจึงมีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดล้านช้างด้วย

สร้างโดยเจ้าหน่อแก้วกำมาน พระโอรสของพระเจ้าไชยเชษฐา มีซุ้มประตูตกแต่งด้วยงานปูนปั้นสวยงามมาก

สถานที่น่าสนใจทางฝั่งเชียงแมน ได้แก่ พระธาตุจอมเพชร อยู่บนไหล่เขาภูนาง สร้างในปี พ.ศ. ๒๔๓๑ ตรงกับสมัยพระเจ้ามหินทรเทพ (เจ้าอุ่นคำ) เวลานั้นทางฝั่งเมืองเชียงแมนยังอยู่ในเขตพระราชอาณาจักรสยาม ชาวหลวงพระบางจะขึ้นไปทำบุญพระธาตุจอมเพชรกันในวันสิ้นปีหรือวันสังขานล่อง ภายหลังเสร็จจากก่อเจดีย์ทรายบนฝั่งน้ำโขงเรียบร้อยแล้ว

ในหมู่บ้านจอมเพชรซึ่งขึ้นกับเมืองเชียงแมนนั้น ยังมีวัดเชียงแมน ซึ่งบางคนก็นิยมเรียกว่า วัดจอมเพชร สร้างในปี พ.ศ. ๒๑๓๕ สมัยเจ้าหน่อแก้วกุมาร ต่อมาทรุดโทรมลงจนชาวเมืองเชียงแมนได้ช่วยกันบูรณะขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. ๒๔๗๐ ส่วนที่ยังเป็นของเก่าแก่ดั้งเดิมคือ บานประตู และมีโบราณวัตถุสำคัญคือ คานหาม (เสลี่ยง) ของเจ้าองค์นกหรือพระเจ้าบรรมขัตติยวงศา ผู้ครองหลวงพระบางระหว่างปี พ.ศ.๒๒๕๖-๒๒๖๖

สิ่งน่าสนใจ
พระธาตุจอมเพชร
บูรณะโดยเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี เมื่อครั้งเป็นแม่ทัพใหญ่ฝ่ายเหนือยกทัพมาปราบฮ่อ และตั้งทัพอยู่ริมฝั่งน้ำโขงฟากเมืองเชียงแมนทางทิศใต้ของสิมมีเจดีย์บรรจุอัฐิของเจ้าหญิงทองดีมเหสีของพระเจ้าสักกะริน

พระธาตุอิงฮัง ลาว

tour-phra-that-ing-hung-laos

พระธาตุอิงฮัง (Phra That lng - Hang)
เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เป็นพระธาตุคู่แฝดของพระธาตุพนม สูง 25 เมตร มีภาพสลักนูนสูงออกแนวฮินดูประดับประดารอบพระธาตุ น่าจะเป็นศิลปะเขมร รอบผนังกำแพงพระธาตุด้านในเป็นศาลาวนรอบ มีพระพุทธรูปวางเรียงเป็นแถวยาวตลอดทั้งสี่ด้าน เห็นว่าเป็นการหล่อโดยพุทธศาสนิกชนทั้งชาวลาวและชาวไทยร่วมกัน มีซุ้มประตูทางเข้า 4 ด้าน ได้สืบทราบมาว่าทุกปีจะมีการจัดงานยิ่งใหญ่นมัสการพระธาตุอิงฮัง โดยจะมีขบวนแห่เทียน และฟ้อนรำถวายองค์พระธาตุ ในช่วงเดือนธันวาคม

พระธาตุอิงฮัง เป็นศิลปะและสถาปัตยกรรมศิลป์ที่สวยงาม ทั้งเป็นปูชนียสถานที่สำคัญแห่ง หนึ่งอยู่ สปป. ลาว ตั้งอยู่แขวงสะหวันนะเขต ภาคใต้ของลาว และประมาณ 15 กิโลเมตร ระหว่างเส้นทางสะหวันนะเขต-เซโน พระธาตุสูงกว้างด้านละ 9 เมตร มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม ย่อมุมเหมือนหอปราสาท เป็นเจดีย์แบบผสมวิหาร คือใช้เป็นสถานที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ ้ เพราะมีประตูเข้าออกได้ องค์พระธาตุเจดีย์จัดเป็น 3 ฐานลดหลั่นกันเป็นลำดับ ฐานล่าง ฐานกลาง เป็นศิลปะดั้งเดิม ฐานบน และยอดเจดีย์ เป็นศิลปะสมัยล้านช้าง

tour-phra-that-ing-hung-laos tour-phra-that-ing-hung-laos

ตามหลักฐานประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพุทธศตวรรษที่ 10 - 11 ตามตำนานพระอุรังคธาตุบอกไว้ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาเมืองล้านช้าง ได้ประทับยืนใต้ต้นรัง ทอดพระเนตรภูกำพร้ากลางแม่นํ้าโขง แล้วทรงพยากรณ์ว่าพระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองในแดนนี้ ต่อมาจึงมีการสร้างพระธาตุอิงฮังและพระธาตุพนมเป็นพระธาตุคู่แฝด พระธาตุอิงฮังได้รับการเคารพสักการะจากชาวลาวไม่น้อยกว่าพระธาตุหลวงในเวียงจันทน์

รอบ ๆ องค์พระธาตุ มีอาคารล้อมรอบ มีพระพุทธรูปเรียงราย น่าเลื่อมใสหลังคามุงด้วยเกล็ดไม้ หาดูได้ยากแล้วที่เมืองไทย

ทุกปีจะมีงานบุญนมัสการพระธาตุเป็นงานยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกันกับที่ชาวไทยจัดงานประเพณีนมัสการพระธาตุพนม งานทั้งสองมีขบวนแห่เทียนและการฟ้อนรำถวายองค์พระธาตุเช่นเดียวกัน แต่งานพระธาตุอิงฮังจัดขึ้นก่อนช่วงกลางเดือนธันวาคม ส่วนพระธาตุพนมจะจักในช่วงวันเพ็ญเดือนสาม (ประมาณเดือนกุมภาพันธ์) ของทุกปี

ทัวร์แนะนำ

  1. เหมากรุ๊ป Team Building
  2. เหมากรุ๊ป CSR
  3. เหมากรุ๊ป Team Building และ CSR
  4. เหมากรุ๊ปทัวร์ในประเทศ
  5. เหมากรุ๊ปทัวร์เอเชีย

ศูนย์รับจัด Outing, Team Building, CSR, Walk Rally, สัมนานอกสถานที่, ดูงาน สำหรับในประเทศและโซนเอเชีย

นิววิวทัวร์ รับจัด Outing, Team Building, CSR, Walk Rally, สัมนานอกสถานที่, ดูงาน สำหรับบริษัทในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล และ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง

เชื่อถือได้

เราเป็นบริษัทที่ทำด้านการท่องเที่ยวมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ปี มีลูกค้าต่างๆมากมาย ซึ่งเชื่อมั่นในคุณภาพของการดำเนินงานของเรา

ราคาคุ้มค่า

ทุกแพ็คเก็จทัวร์มีรายละเอียดและแผนงาน ที่ทำให้คุ้มค่ากับทุกบาทที่ลูกค้าเลือกเรา

บริการต่อเนื่อง

 เมื่อมีโปรโมชั่นใหม่ๆ หรือ ทัวร์น่าเทียว เราจะแจ้งให้ทราบตามส่วนติดต่อที่ระบุไว้ให้กับเรา 

ข้อมูลเพิ่มเติม

เราทีทีมงานที่พร้อมให้ข้อมูลกับลูกค้าทุกท่าน เพียงแค่โทรหาเรา

นิววิวทัวร์พาเที่ยว

กับผลงานการจัดทัวร์บางส่วนของความมุ่งมั่นในการให้บริการจากเราและการอุปการะคุณที่ดีของลูกค้าที่ผ่านมาโดยตลอด

คำยืนยันลูกค้า

คำยืนยัน ในคุณภาพและผลงานการจัดทัวร์จากลูกค้าบางส่วนของ นิววิวทัวร์