2 ช่องทางและวิธีการเดินทาง แผนที่ ภูมิอากาศ ระนอง
สารบัญ

แผนที่ท่องเที่ยว จังหวัดระนอง นิววิวทัวร์
ภูมิอากาศ จังหวัดระนอง
ระนองเป็นจังหวัดที่ได้ชื่อว่ามีฝนตกชุกที่สุดของประเทศหรือเป็นเมือง “ฝนแปดแดดสี่” เนื่องจากอยู่ทางด้านตะวันตกของประเทศและติดกับทะเลอันดามัน จึงได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ แต่จังหวัดระนองไม่ได้เป็นจังหวัดที่มี สถิติฝนตกมากที่สุดในประเทศไทย จังหวัดระนอง มีฤดู 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 20.7 – 35.60 องศาเซสเซียส ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - ธันวาคม ช่วงที่ฝนตกชุกอยู่ระหว่างเดือนกรกฎาคม - กันยายน และในเดือนมกราคม จะเป็นช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิต่ำเล็กน้อยประมาณ 19.80 – 34.70 องศาเซสเซียส
ลักษณะอากาศทั่วไป
เนื่องจากเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภาคใต้ด้านฝั่งตะวันตกได้รับอิทธิพลของลมมรสุมลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้อย่างเต็มที่ จึงมีฝนตกชุกหนาแน่นกว่าจังหวัดอื่น ๆ และตกเกือบตลอดปี ส่วนฤดูหนาวอากาศไม่หนาวจัดเพราะอยู่ไกลจากอิทธิพลของอากาศหนาวพอสมควร แต่บางครั้งอาจมีฝนตกได้ เนื่องจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่านอ่าวไทยพาเอาฝนมาตก แต่มีปริมาณน้อยกว่าจังหวัดที่อยู่ทางด้านตะวันออกของภาคใต้
อุณหภูมิ
เนื่องจากเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในคาบสมุทรที่มีแหลมยื่นออกไปในทะเล จึงได้รับมรสุมอย่างเต็มที่ คือมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จากมหาสมุทรอินเดียและมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย ทำให้ได้รับไอน้ำและความชุ่มชื้นมากอุณหภูมิเฉลี่ยจึงไม่สูงมาก และอากาศไม่ร้อนจัดในฤดูร้อน อากาศจะอบอุ่นในช่วงฤดูฝน ส่วนฤดูหนาวอากาศจะเย็นในบางครั้ง อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 26.5 ซ. อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 31.4 ซ. อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 22.3 ซ. เดือนเมษายนเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนจัดที่สุด เคยตรวจอุณหภูมิสูงที่สุดได้ 39.6 ซ. เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2526 และเคยตรวจอุณหภูมิต่ำที่สุดได้ 13.7 ซ. เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2499
ความชื้นสัมพัทธ์
ความชื้นสัมพัทธ์สัมพันธ์กับมวลอากาศและอิทธิพลของลมมรสุมเป็นสำคัญ ตลอดทั้งปีจังหวัดระนองจะมีความชื้นสัมพัทธ์อยู่ในเกณฑ์สูง เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากมรสุมทั้งสองฤดูอย่างเต็มที่ มรสุมทั้งสองนี้ก่อนจะพัดเข้าสู่บริเวณจังหวัดได้ผ่านทะเลและมหาสมุทรจึงได้พัดเอาไอน้ำและความชุ่มชื้นมาด้วย ทำให้บริเวณจังหวัดมีความชุ่มชื้นและความชื้นสัมพัทธ์สูงเป็นเวลานาน ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตลอดปีประมาณ 83 % ความชื้นสัมพัทธ์สูงสุดเฉลี่ย 96 % ความชื้นสัมพัทธ์ต่ำสุดเฉลี่ย 68 % เคยตรวจความชื้นสัมพัทธ์ต่ำที่สุดเคยตรวจได้ 28 % ในเดือนมกราคม
ฝน
เนื่องจากจังหวัดระนองอยู่ทางด้านฝั่งตะวันตกของภาคใต้ซึ่งรับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้อย่างเต็มที่ในฤดูฝน จังเป็นจังหวัดที่มีฝนอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ส่วนในฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกน้อยเนื่องจากทิวเขาด้านตะวันออกของภาคใต้ปิดกั้นลมไว้ ปริมาณฝนเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 4,275.4 มิลลิเมตร มีฝนตกประมาณ 203 วัน เดือนที่มีฝนตกมากที่สุดคือเดือนสิงหาคม มีฝนเฉลี่ย 794.1 มิลลิเมตร ฝนตกเฉลี่ย 27 วัน ฝนสูงสุดใน 24 ชั่วโมง เคยตรวจได้ 460.9 มิลลิเมตร ในวันที่ 22 มิถุนายน 2513
จำนวนเมฆ
ตลอดทั้งปีจะมีจำนวนเมฆเฉลี่ยประมาณ 6 ส่วนของจำนวนเมฆในท้องฟ้า 8 ส่วน โดยในฤดูร้อนเมฆประมาณ 4 ส่วน ฤดูฝนประมาณ 7 ส่วน ฤดูหนาวประมาณ 5 ส่วน
หมอก ฟ้าหลัว และทัศนวิสัย
โดยเฉลี่ยแล้วจังหวัดระนองมีโอกาสเกิดหมอกได้เกือบทุกเดือนประมาณเดือนละ 1 - 4 วัน เดือนพฤษภาคมเป็นเดือนที่เกิดหมอกมากที่สุดประมาณ 5 วัน วันที่เกิดหมอกทัศนวิสัยจะเลวเห็นได้ไม่เกิน 1 กิโลเมตร ส่วนฟ้าหลัวเกิดได้ทุกเดือน เดือนมกราคมถึงเมษายนเกิดมากประมาณเดือนละ 15 – 21 วัน ส่วนเดือนอื่น ๆ จะเกิดได้ประมาณ 4 – 8 วัน วันที่มีฟ้าหลัวทัศนวิสัยจะเห็นได้ไกลประมาณ 6 กิโลเมตร ทัศนวิสัยเฉลี่ยเวลา 07.00 น. จะเห็นได้ไกลประมาณ 7 กิโลเมตร และทัศนวิสัยเฉลี่ยตลอดวันประมาณ 9 กิโลเมตร
ลม
ระบบหมุนเวียนของลมในจังหวัดระนองมีความชัดเจนดี เดือนตุลาคมถึงธันวาคมจะเป็นลมทิศตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังลมเฉลี่ย 7 - 9 กม./ชม. เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์จะเป็นลมทิศตะวันออก กำลังลมเฉลี่ย 7 - 9 กม./ชม. เดือนมีนาคมถึงเมษายนจะเป็นลมทิศตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังลมเฉลี่ย 7 – 9 กม./ชม. เดือนพฤษภาคมถึงกันยายนจะเป็นลมทิศใต้ กำลังลมเฉลี่ย 7 – 11 กม./ชม. กำลังลมสูงสุดในแต่ละฤดูมีดังนี้ ฤดูร้อนเคยตรวจลมสูงที่สุดได้ 65 กม./ชม. เป็นลมทิศตะวันออกในเดือนเมษายน ฤดูฝนเคยตรวจลมสูงที่สุดได้ 111 กม./ชม. เป็นลมทิศตะวันตกในเดือนตุลาคม และฤดูหนาวเคยตรวจลมสูงที่สุดได้ 89 กม./ชม. เป็นลมทิศตะวันออกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อยในเดือนมกราคม
พายุหมุนเขตร้อน
พายุหมุนเขตร้อนที่ผ่านบริเวณภาคใต้และทำความกระทบกระเทือนให้กับจังหวัดระนอง ส่วนมากเป็นพายุดีเปรสชั่นที่มีกำลังอ่อน ซึ่งเกิดจากทะเลจีนใต้และมหาสมุทรแปซิฟิคและมีส่วนน้อยที่เกิดจากทางมหาสมุทรอินเดีย พายุดีเปรสชั่นหรือพายุโซนร้อนที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคใต้เกือบทุกครั้งจะทำความกระทบกระเทือนให้กับจังหวัดระนองด้วย คือทำให้ฝนตกหนัก ลมกระโชกแรงและเกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันขึ้นได้ กำลังแรงของลมและคลื่นในทะเลจะทำอันตรายแก่เรือในทะเล และอาคารบ้านเรือนที่อยู่ตามชายฝั่งทะเลได้ พายุหมุนที่มีความรุนแรงและทำความเสียหายแก่ภาคใต้เป็นบริเวณกว้างและจังหวัดระนองที่ผ่านมาได้แก่พายุโซนร้อน “ฮาเรียต” ซึ่งก่อตัวขึ้นในทะเลจีนใต้ใกล้ปลายแหลมญวน เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2505 แล้วเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวไทยพร้อมทวีความรุนแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และได้เคลื่อนตัวผ่านจังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และจังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 25 – 26 ตุลาคม 2505 ลงสู่ทะเลอันดามัน พายุนี้ได้ทำความเสียหายเกือบทุกจังหวัดในภาคใต้ โดยมีผู้เสียชีวิตถึง 935 คน และบาดเจ็บ 445 คน ทรัพย์สินของราชการและเอกชนเสียหายคิดเป็นมูลค่าถึง 1,320 ล้านบาท นับเป็นความเสียหายจากภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดของประเทศไทย และเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2515 พายุดีเปรสชั่นซึ่งอ่อนกำลังลงจากพายุไต้ฝุ่น “แซลลี่” ผ่านเข้ามาในจังหวัดระนอง ทำให้มีฝนตกหนักใน 24 ชั่วโมงวัดจำนวนได้ 94.0 มิลลิเมตร




คำยืนยันลูกค้า
คำยืนยัน ในคุณภาพและผลงานการจัดทัวร์จากลูกค้าบางส่วนของ นิววิวทัวร์
คำยืนยันแด่นิววิวทัวร์ - Team Building สัตหีบ (รพ. จุฬา) 37 ท่าน Part 3
14860 Views
คำยืนยันแด่นิววิวทัวร์ - ทีมบิ้วดิ้ง จันทบุรี (เคอรี่ ฟลาวมิลล์) กรุ๊ปสอง 16 ท่าน Part 2
15302 Views
คำยืนยันแด่นิววิวทัวร์ - กรุ๊ปคุณพลอย (ดับบลิวทีซี) กิจกรมอัมพวา 2 วัน 70ท่าน Part 1
14610 Views