ทัวร์กระบี่ 4 วัน (ไปรถ-กลับรถ)

private tour ชม น้ำตกร้อน นับเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยว unseen Thailand อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่ ตัวน้ำตกตั้งอยู่ใน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ใกล้ๆ กับสระมรกต ชม สระมรกต กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ เป็นน้ำพุร้อน มีอุณหภูมิประมาณ 30-50 องศาเซลเซียส

ราคาติดต่อเจ้าหน้าที่



	THG-KBI4-4BKK

ทัวร์วันที่ 1) กรุงเทพฯ - จ. กระบี่

18.00

พร้อมกันที่ กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่บริษัทฯ ให้การต้อนรับ และ อำนวยความสะดวกแก่ท่าน

19.00

ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ จ. กระบี่ โดยรถบัสปรับอากาศ VIP

ทัวร์วันที่ 2) จ.กระบี่ - น้ำตกร้อน – สระมรกต

06.00

ถึง จ. กระบี่ พร้อมให้ท่านได้ทำภารกิจส่วนตัว ณ ......

07.00

รับประทานอาหารเช้า (1) ณ ร้านอาหารติ่มซำ กระบี่

จากนั้นชม สระมรกต กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ เป็นน้ำพุร้อน มีอุณหภูมิประมาณ 30-50 องศาเซลเซียส เป็นสระน้ำสวยใสกลางใจป่าที่มีน้ำใส เป็นสีเขียวอมฟ้า เปลี่ยนสีไปได้ตามวันเวลาและสภาพแสง สระมรกตกำเนิดมาจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ เป็นน้ำพุร้อนลักษณะเป็นสระ น้ำร้อน 3 สระ ได้แก่ สระแก้ว สระมรกต และ สระน้ำผุด น้ำใสเป็นสีเขียวมรกต

นำท่านชม น้ำตกร้อน นับเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยว unseen Thailand อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่ ตัวน้ำตกตั้งอยู่ใน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ใกล้ๆ กับสระมรกต เป็นอ่างอาบน้ำธรรมชาติกลางป่ารองรับ สายน้ำตก ที่ไหลหลั่นลง มาจากเนินเขา ใครได้มาสัมผัสต่างบอกกันว่า ไม่ใช่น้ำตกธรรมดาๆ แน่นอน ก็ใครจะเชื่อว่า นี่คือน้ำตกร้อน สายน้ำแร่ ที่ไหลมาพร้อมๆ กับไออุ่นเพื่อสุขภาพโดยเฉพาะ มีลักษณะ เป็นธารน้ำพุร้อนผุด ขึ้นมาจากใต้ดินตาม ธรรมชาติ มีสารกำมะถั เจือจางเป็นส่วนประกอบ มีอุณหภูมิพอเหมาะตกลงมาในแอ่ง สามารถอาบน้ำได้ บริเวณ ธารน้ำตกร้อนขนาดเล็ก ที่ไหลลดหลั่นกันมาตามธรรมชาติ ในน้ำพุร้อนประกอบไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ ที่ช่วยให้ผ่อนคลาย

12.00

รับประทานอาหารเที่ยง (2) ณ ร้านอาหารเรือนทิพย์

นำท่านเข้าสู่ที่พัก

18.00

รับประทานอาหารเย็น (3) ณ ร้านอาหารวังทราย ซีฟู๊ด

ทัวร์วันที่ 3) เกาะลาดิง – เกาะผักเบี้ย - อ่าวห้อง (ลากูล) - เกาะห้อง

07.00

รับประทานอาหารเช้า (4) ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

09.00

เดินทางสู่ เกาะลาดิง

09.40

ถึง เกาะลาดิง เกาะเหลาลาดิง ป็นเกาะที่มีขนาดไม่ใหญ่ มีชายหาดเล็กๆ มีลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวหลบอยู่ด้านในของภูเขาหินปูนสองฝั่ง ที่นี่จึงเงียบสงบ มีบรรยากาศส่วนตัวสุด ๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากมานอนริมทะเล พักผ่อนกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ยิ่งไปกว่านั้นหาดทรายยังขาวสะอาด เนื้อทรายเนียนละเอียด บริเวณชายหาดจะมีร่มไม้ให้นักท่องเที่ยวได้มานอนเล่นพักผ่อน น้ำทะเลใส เป็นสีเขียวมรกตงามจับตา มีแนวปะการังให้ได้ดำน้ำตื้นกันอย่างสนุกสนาน ที่นี่จึงได้สมญานามว่า เกาะพาราไดซ์ (Koh Paradise)

10.50

เดินทางสู่ เกาะผักเบี้ย

11.00

ถึง เกาะผักเบี้ย เป็นเกาะเล็กๆ อยู่ทางด้านหลังของเกาะห้อง น้ำทะเลที่นี่ใสสะอาด เหมาะแก่การลงเล่นน้ำบรรยากาศเงียบสงบร่มรื่น ไปด้วย ต้นไม้น้อยใหญ่ที่อยู่ริมหาด เกาะผักเบี้ยนี้ แม้ว่าจะมีแนวชายหาดที่ไม่กว้างมากนัก แต่ก็มีหาดทรายที่ขาวสะอาดไม่แพ้หาดอื่นๆ เมื่อน้ำลงสันทรายที่เกาะผักเบี้ยนี้จะปรากฏเป็นแนวยาวไปจนจรดอีกเกาะหนึ่ง ซึ่งเรียกว่าเกาะผักเบี้ยเช่นกัน และสามารถเดินถึงกันได้ในเวลาน้ำลงเต็มที่เท่านั้น เพราะในเวลาที่น้ำขึ้น น้ำก็จะแยกเกาะผักเบี้ยออกเป็นสองเกาะนั่นเอง

11.40

เดินทางสู่ อ่าวห้อง (ลากูล)

12.00

ถึง อ่าวห้อง ลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งของ อ่าวห้อง (ลากูน) หรือทะเลใน ซึ่งเปรียบเสมือนสระน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ ผนังเป็นหน้าผาชันโดยรอบลักษณะคล้ายห้อง มีประตูทางเข้าเพียงทางเดียว กว้างประมาณ 10 เมตร สามารถนำเรือเข้าไปได้ พื้นเป็นทรายขาวสะอาดราบเรียบเสมอกัน น้ำตื้นและใสมาก เหมาะแก่การเล่นน้ำ และยังเป็นที่หลบคลื่นลมของชาวประมง เมื่อมีพายุพัดผ่าน และจุดนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมาพายเรือคายัคจำนวนมาก

รับประทานอาหารเที่ยง (5) แบบกล่อง

ชม เกาะห้อง หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เกาะเหลาบิเละ เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีทัศนียภาพสวยงามมาก ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีคราม มีกัลปังหาและปะการังรอบเกาะ มีเวิ้งหาดสองหาดติดกั้น โดนกั้นด้วยโขดหินตรงกลาง ลักษณะโดยทั่วไปเป็นเขาหินปูน น้ำทะเลใส หาดทรายขาว มีแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกเหมาะแก่การดำน้ำชมฝูงปลาน้อยใหญ่

14.30

เดินทางกลับท่าเรือ

ถึงที่พัก

18.00

รับประทานอาหารมื้อค่ำ (6) ณ. ห้องอาหารของโรงแรม (งานปาร์ตี้จัดภายในห้องประชุม)

ทัวร์วันที่ 4) วัดถ้ำเสือ - ซื้อของฝาก ของดี ของ จ. กระบี่ – กรุงเทพฯ

07.00

รับประทานอาหารเช้า (7) ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

08.00

เช็คเอาท์ออกจากที่พัก

นำท่านชม วัดถ้ำเสือ ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่มาไม่ไกลนัก ราวๆ 5-6 กิโลเมตร ชื่อวัดนั้นมีข้อสันนิษฐานว่าเนื่องจากในอดีตเคยมีเสืออาศัยอยู่ และภายในถ้ำยังปรากฏหินธรรมชาติ เป็นรูปแบบของอุ้งเท้าเสือ ส่วนที่มาของวัดนี้น่าจะมาจากพระธุดงค์ที่เดินทางจาริกไปเพื่อหาสถานที่วิเวกในการปฏิบัติธรรม มาอาศัยอยู่ตามถ้ำ และมีชาวบ้านที่ศรัทธาตามมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก