ทัวร์หลวงพระบาง-วังเวียง-เวียงจันทน์ 4 วัน (QV)
โปรแกรมทัวร์หลวงพระบาง จะพาท่านสัมผัสบ้านพี่เมืองน้องมรดกโลกหลวงพระบาง นมัสการพระธาตุพูสี ซื้อหัตถกรรมผ้าทอมือพื้นเมืองที่บ้านผานม เที่ยวนครหลวงเวียงจันทน์ สัมผัสประสบการณ์การทัวร์วังเวียง กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว และในโปรแกรมทัวร์หลวงพระบางนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่อยู่ในโปรแกรมนี้
ราคาติดต่อเจ้าหน้าที่
LAAJ10-4BKK |
ทัวร์วันที่ 1) กรุงเทพฯ – หลวงพระบาง – วัดใหม่สุวันนะพูมาราม – พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง (พระราชวังเก่า) – พระธาตุพูสี - ตลาดไนท์บาร์ซา |
|
07.30 |
พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกต่างประเทศชั้น 4 ประตูทางเข้าที่ 8 เคาน์เตอร์ R แถว R1-3 สายการบินลาว(QV) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับ |
10.05 |
เหินฟ้าสู่ เมืองหลวงพระบาง โดยสายการบินลาว เที่ยวบินที่ QV634 |
11.55 |
ถึง สนามบินหลวงพระบาง อดีตราชธานีของอาณาจักรล้านช้าง เดิมชื่อ “ศรีสัตนาคนหุตมะราชธานี” เจริญรุ่งเรืองมากในสมัยพระเจ้าฟ้างุ้ม ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
|
บ่าย |
หลังอาหารนำท่านชม วัดใหม่สุวันนะพูมาราม ซึ่งอยู่ถนนศรีสว่างวงศ์ติดกับพระราชวังหลวง สร้างในสมัยพระเจ้าอนุรุท ในปี พ.ศ.2337 หรือชื่อสั้นๆ ว่า วัดใหม่ วัดนี้เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน นับเป็นสังฆราชองค์สุดท้ายของลาว มีอุโบสถที่สวยงามด้วยศิลปะแบบอูบมุง และปัจจุบันใช้เป็นโรงเรียนปริยัติธรรม แล้วชมพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง อดีตเป็นพระราชวังหลวงซึ่งเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตลาว สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1904(พ.ศ.2447) โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบ เมื่อปี ค.ศ.1975 (พ.ศ.2519)จากนั้นนำท่านกราบไหว้พระบาง พระพุทธรูปปางห้ามสมุทร สูง 1.14 เมตร หนัก 54 กิโลกรัม กล่าวกันว่า ทำด้วยทองคำ 90 เปอร์เซ็นต์เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบางและของชาวลาว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมืองหลวงพระบาง เดิมเมืองนี้ชื่อเมืองขวา แล้วเปลี่ยนมาเป็น เชียงดง เชียงทอง ตามลำดับ |
17.00 |
นำท่านไปสักการะ พระธาตุพูสี ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 150 เมตร ใจกลางเมืองหลวงพระบาง นักท่องเที่ยวที่มาเยือนหลวงพระบาง หากไม่ได้ขึ้นไปก็เหมือนมาไม่ถึงหลวงพระบาง สองข้างทางขึ้นพระธาตุร่มรื่นและหอมอบอวลไปด้วยดงดอกจำปาลาวหลากสีสัน(ช่วง กพ.-มีค.) มองจากยอดพูสีคือภาพพานอรามาของราชธานีเก่าแก่ริมแม่น้ำโขง ล้อมรอบด้วยทิวเขาสลับซับซ้อนสมกับนามว่า บ้านผา เมืองภูอูอารยะธรรมล้านช้างชม พระอาทิตย์อัสดงและตัวเมืองหลวงพระบางในมุมสูง ซึ่งเบื้องล่างจะมองเห็นพิพิธภัณฑ์ โดยมีแม่น้ำโขงเป็นฉากหลัง และอีกด้านหนึ่งจะเห็นน้ำคานที่ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขงจากนั้นให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ ถนนคนเดิน หรือ ตลาดไนท์บาร์ซา เป็นถนนคนเดินตอนเย็นตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็นถึงประมาณ 4 ทุ่ม ก็จะมีชาวลาวสูง ลาวเทิง ลาวม้ง ชาวบ้านผานม แม้นแต่ชาวหลวงพระบางเองก็จะนำสินค้าพื้นเมือง ไม่ว่าจะเป็นผ้าปัก ผ้าทอมือ ผ้านุ่ง ผ้าซิ่น เครื่องเงิน เครื่องไม้ สินค้ามากมายถูกวางอยู่บนถนนและริมทางเดินตั้งแต่หน้าพระราชวังจนสุดหัวถนน อิสระตามอัธยาศัย |
19.00 |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านนางไก่ อนงเดด
|
ทัวร์วันที่ 2)ตักบาตรข้าวเหนียว – ตลาดเช้า – บ้านช่างฆ้อง – บ้านช่างไห – ล่องเรือแม่น้ำโขงถ้ำติ่ง – น้ำตกตาดกวางซี - พระอาทิตย์อัสดงที่วัดพระบาทใต้ |
|
05.30 |
ตื่นแต่เช้า ร่วมทำบุญใส่บาตร กับชาวเมืองหลวงในวัฒนธรรมของชาวพุทธแบบดั้งเดิม ทุกเช้าชาวหลวงพระบางทุกบ้านจะพากันออกมานั่งรอตักบาตรพระสงฆ์ ที่เรียงแถวเดินมาตามถนนเป็นร้อยๆ รูป เป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวา ซึ่งสะท้อนถึงวิถีชีวิตของสังคมอันสงบสุข ความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึกลงในวัฒนธรรมชาวล้านช้าง นับว่าเป็นภาพที่หาดูได้ไม่ง่ายนัก จากนั้นไปชม ตลาดเช้า พื้นบ้านริมฝั่งแม่น้ำโขง |
07.00 |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
08.00 |
เดินทางไป บ้านช่างฆ้อง เป็นหมู่บ้นทอผ้าพื้นเมืองและทำกระดาษสา ให้ท่านได้เลือกซื้อเพื่อเป็นของฝากคนทางบ้านตามอัธยาศัยจากนั้นเดินทางสู่ บ้านช่างไห สัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขง มีอาชีพในการหมักสาโทและต้มเหล้าโรงจำหน่าย และยังเป็นแหล่งรวมสินค้าพื้นเมืองจำพวกผ้าทอลวดลายสวยงามมากมายวางจำหน่ายแล้วนำท่านลงเรือล่องน้ำโขงสู่ ถ้ำติ่ง ชมวิวทิวทัศน์และวิถีชีวิตสองฝั่งแม่น้ำโขง ถึงถ้ำติ่งซึ่งเป็นถ้ำอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำโขง เดิมเคยมีพระพุทธรูปทอง เงิน นาก ปัจจุบันเหลือแต่พระพุทธรูปไม้จำนวนนับพันองค์ ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกได้เวลาสมควรเดินทางกลับ หลวงพระบาง |
12.00 |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านมะนีวัน ปากอู |
บ่าย |
เดินทางไป น้ำตกตาดกวางซี ระหว่างทางผ่านหมู่บ้านชนบทชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน ถึงน้ำตกตาดกวางซี ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง ชมความงามของน้ำตกที่ลดหลั่นเป็นชั้นๆ อย่างสวยงาม แต่ละชั้นเกิดจากการสะสมของหินปูนที่ไหลปะปนมากับน้ำ พร้อมกับชมความร่มรื่นเขียวชอุ่มรอบๆ บริเวณ ได้เวลาสมควรเดินทางกลับแล้วนำชม พระอาทิตย์อัสดงที่วัดพระบาทใต้ ตัววัดในอดีตตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นในด้านทิศใต้คู่กับวัดพระบาทเหนือ จากหลักฐานร่องรอยที่พบเห็น เชื่อว่าสร้างในรัชสมัยพระเจ้าสามแสนไท เนื่องจากการบูรณะวัดในปี พ.ศ.2503 สภาพวัดได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเกือบทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นศิลปะจีน-เวียดนาม ซึ่งในสมัยนั้นมีเข้าอาวาสเป็นชาวเวียดนามที่เกิดและอาศัยอยู่ในหลวงพระบาง (เวียด-เกียว) และชาวบ้านที่ถวายปัจจัยร่วมบูรณะส่วนใหญ่มีเชื้อชาติเดียวกัน จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “วัดเวียด” (มาจากคำว่าเวียดนามนั่นเอง)จุดเด่นที่น่าสนใจของวัดนี้อยู่ที่พระพุทธรูปและสถาปัตยกรรมภายในจะเป็นสไตล์แบบจีนผสมเวียดนาม มีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขง จากบริเวณนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงและเมืองฝั่งตรงข้ามได้อย่างชัดเจน นับเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของหลวงพระบาง |
19.00 |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านปากห้วยมีไช
|
ทัวร์วันที่ 3) วัดเชียงทอง – วัดแสนสุขาราม – บ้านมรดกโลก – ร้านโพธิสัต – วัดวิชุนราช – พระธาตุหมากโม – วัดป่าโพนเพา – บ้านผานม – วัดพระมหาธาตุราชบวรวิหาร (ทาดน้อย) |
|
07.00 |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
08.00 |
หลังอาหาร นำท่านชม วัดเชียงทอง ซึ่งเป็นวัดหลวงคู่เมืองหลวงพระบาง โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชได้โปรดให้สร้างขึ้น ได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์และศรีสว่างวงศ์วัฒนาเป็นพิเศษ บริเวณที่ตั้งของวัดอยู่ตอนหัวโค้งของแผ่นดินที่แม่น้ำคานมาบรรจบกันกับแม่น้ำโขง เป็นศูนย์ศิลปกรรมล้านช้างความงามของวัดอยู่ที่ความสงบ สง่า สะอาด มีการวางผังออกแบบ และบำรุงรักษาอย่างดีเยี่ยม ชมสิมหรือโบสถ์ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของศิลปะสกุลช่างล้านชม วัดแสนสุขาราม วัดแสนสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2261 ตามประวัติกล่าวว่าชื่อของวัดมาจากเงินจำนวน 100,000 กีบ ที่มีผู้บริจาคให้เป็นทุนเริ่มสร้างวัดแสนได้รับการบูรณะ 2 ครั้ง โดยช่างสกุลลาว จุดเด่นคือ พระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่ องค์เดียวภายในแขวงหลวงพระบางจากนั้นชม บ้านมรดกโลก ที่องค์การยูเนสโกได้อนุรักษ์ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังศึกษา บ้านที่สร้างแบบสมัยเก่าแก่เพียงหลังเดียวทีคงอยู่เป็นบ้านที่เสาบ้านไม่ใช้ตะปูดอก แต่จะใช้ไม้สอดเข้าหากัน และมีต้นเสาบ้านนับสิบๆ เสาแล้วชม ร้านโพธิสัต ซึ่งเป็นร้านทำเครื่องเงินที่เก่าแก่ของหลวงพระบาง ช้อปปิ้งอิสระ |
12.00 |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านตำหนักลาว |
บ่าย |
หลังอาหาร นำท่านชม วัดวิชุนราช สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าวิชุนราช ในปี พ.ศ.2046 สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ มีเจดีย์ปทุมหรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ วัดนี้มีพระธาตุเจดีย์องค์ใหญ่รูปทรงคล้ายแตงโมผ่าครึ่ง ทำให้ชาวลาวเรียกกันว่า พระธาตุหมากโม เป็นทรงโอคว่ำ ยอดพระธาตุลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย เจดีย์นี้อาจดูทรุดโทรมมากแม้จะมีการปฏิสังขรณ์มา 2 ครั้งแล้วในปี พ.ศ.2402 ในสมัยพระเจ้าสักกรินทร์(คำสุก) ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ได้โปรดให้มีการบูรณะใหม่และได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2457ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ได้ค้นพบโบราณวัตถุมีค่ามากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ ปัจจุบันนำไปเก็บไว้ในหอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ในพระราชวังหลวงจนปัจจุบันชม วัดป่าโพนเพา สร้างขึ้นโดยพระอาจารย์สายสมุทร มีศาสนสถานส่วนใหญ่อยู่บริเวณเชิงเขา จุดเด่นที่นำชมอยู่ที่สันติเจดีย์บนยอดเนิน สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2531 ลักษณะเป็นอาคารทรงพระธาตุ ภายนอกชึ้นบนทาสีทอง ส่วนชั้นล่างเป็นโถงทรงเหลี่ยมรอบๆ พระธาตุ มีหน้าต่างแกะสลักเล่าเรื่องพุทธประวัติ ภายในแบ่งเป็น 4 ชั้น แต่ละชั้นจะประดับภาพฝาผนังเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ นรก-สวรรค์ และพุทธศาสนสถานที่สำคัญๆ หลายแห่งทั่วโลก บริเวณระเบียงชั้นสอง สามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองหลวงพระบางได้กว้างไกล ตั้งแต่สนามบิน ตัวเมือง สะพานเหล็ก แม่น้ำคาน พระธาตุพูสี และเทือกเขาที่โอบล้อมด้านหลังมีประตูทางเข้าทั้งสี่ทิศแล้วไปช้อปปิ้งผ้าพื้นเมืองที่ บ้านผานม เป็นชุมชนชาวไทลื้อที่ได้รับสนับสนุนจากทางการยกให้เป็นหมู่บ้านวัฒนธรรม และเป็นหมู่บ้านทอผ้าด้วยมือของชาวไทลื้อที่อพยพมาจากสิบสองปันนา ที่มีฝีมือในการทอผ้าสวยงามชม วัดพระมหาธาตุราชบวรวิหาร (วัดทาดน้อย) สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2091 (สมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช) ได้รับการบูรณะมาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งที่สำคัญเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2453 โดยเจ้ามหาอุปราชบุญคง ภายในสิม (อุโบสถ) แบบล้านช้างมี “ราวเทียน” รูปนาค 24 ตัว ฝีมือการแกะวิจิตรงดงาม หน้าสิมมีเจดีย์ธาตุองค์ใหญ่บรรจุอัฐิของเจ้าเพชรราชรัตนวงศา อดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศลาว และถือเป็นรัฐบุรุษของประเทศลาวยุคใหม่ เฉพาะพระอุโบสถขนาดใหญ่มีการตกแต่งเพิ่มเติมรูปสลักบนบานประตูและหน้าต่าง แสดงเรื่องเล่าชาดกพระสุธน-มโนราห์ ดูสวยงามเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นฝีมือสกุลช่างพ่อเฒ่าเพียดัน ด้านหลังมีพระธาตุเจดีย์ ยอดทรงระฆังประดับเศวตฉัตร 17 ช่อ นั้นหมายถึง วัดนี้สร้างโดยพระมหากษัตริย์หรือเจ้าชีวิต |
18.30 |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านนางไก่ อนงเดดหลังอาหาร อิสระตามอัธยาศัย พัก ณ โรงแรม BUALUANG HOTEL / XANG KHAM HOTEL (3 ดาว) หรือเทียบเท่า |
ทัวร์วันที่ 4) หลวงพระบาง - กรุงเทพฯ |
|
06.00 |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมหลังอาหารอำลาเมืองหลวงพระบาง เดินทางไปสนามบิน |
07.40 | เหินฟ้ากลับกรุงเทพฯ โดย สายการบินลาว เที่ยวบินที่ QV633 |
09.20 | ถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ |