รับจัด Outing, Team Building, CSR, Walk Rally, สัมนานอกสถานที่, ดูงาน ในประเทศและโซนเอเชีย
สำหรับบริษัทในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล และ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง
084-160-0210 , 02-733-0683

ตลาดปลอดภาษีสินค้าเวียดนาม ลาว

tour-market-duty-free-vietnam-laos

ตลาดปลอดภาษีสินค้าเวียดนาม

tour-market-duty-free-vietnam-laos tour-market-duty-free-vietnam-laos tour-market-duty-free-vietnam-laos

tour-market-duty-free-vietnam-laostour-market-duty-free-vietnam-laos

tour-market-duty-free-vietnam-laos tour-market-duty-free-vietnam-laos

 

แหล่งที่มาข้อมูลทัวร์ลาว : -

 

ตลาดปลอดภาษีสินค้าเวียดนาม

อยู่ที่ด่านถาวรสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 (ฝั่งลาว) เปิดบริการ 08.30-17.30 น. ของทุกวัน ร้านค้าปลอดภาษีดาวเรืองจำหน่ายกาแฟดาวและสินค้าอื่นๆ ที่มีคุณภาพดี จำหน่ายเหล้า ไวน์ บุหรี่ น้ำหอม ราคาถูก และกระเป๋าเลียนแบบเป็นสินค้าที่นักซื้อนิยมชมชอบมาก มีสินค้าจากประเทศต่างๆได้แก่ จีน ไทย เวียดนาม ฝรั่งเศส ฯลฯ

 

แหล่งที่มาข้อมูลทัวร์ลาว : เวปสำนักงานผู้ช่วยทูตทหาร ไทย/เวียงจันทน์

ตลาดดาวเรือง ปากเซ จำปาสัก ลาว

tour-dao-hueng-pakse-market-champasak-laos tour-dao-hueng-pakse-market-champasak-laos

 

ตลาดดาวเรืองปากเซ

คนไทยที่มาเที่ยวปากเซ หลังจากชมน้ำตกที่อลังการของลาวแล้ว จุดท่องเที่ยวแหล่งสุดท้ายก่อนจาก ก็คงหนีไม่พ้นที่จะมาจับจ่ายซื้อของในตลาดใหญ่ของเมืองปากเซ ตลาดที่นี่มีชื่ออันไพเราะว่า "ตลาดดาวเรือง" ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสะพานข้ามโขงหรือสะพานมิตรภาพ ลาว - ญี่ปุ่น มากนัก นั่งอยู่บนรถ Bus สามารถมองเห็นแม่น้ำโขงและสะพานได้ชัดเจน คร่าวๆที่เห็นด้วยสายตาพอจะอธิบายได้ว่า

 

ตลาดแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่เป็นอาคารหลังใหญ่ชั้นเดียวจะขายพวกของใช้ เช่นเสื้อผ้าที่มาจากประเทศจีนและไทย พวกของใช้ในบ้านในครัวเรือน เหมือนกับว่าเอาตลาดโบ้เบ้ และเวิ้งนาครเขษม มาไว้ที่นี่ ส่วนภายนอกที่เป็นลานกว้างรอบอาคาร จะเป็นตลาดขายพืชผักต่างๆ มีทั้งขายส่ง และขายปลีก คล้ายตลาดไทบ้านเรา ส่วนริมถนนรอบตลาดก็จะเป็นลานจอดรถนานาชนิด ส่วนใหญ่จะเป็นรถสามล้อเครื่อง สามล้อเล็ก รถสามล้อที่นี่ใช้คุ้มประโยชน์มาก ทั้งบรรทุกคน และขนสัมภาระเต็มท้ายรถ รวมทั้งบนหลังคา..

 

tour-dao-hueng-pakse-market-champasak-laos tour-dao-hueng-pakse-market-champasak-laos

 

ตลาดดาวเรืองมีความใหญ่โตมาก เป็นศูนย์กลางการค้าที่ใหญ่ที่สุดของลาวใต้เลยทีเดียว ชาวบ้านทุกเมืองทุกตำบลจะต้องมาซื้อของกันที่นี่ ซึ่งอาจมีราคาถูกและมีมากกว่าที่วางขายในท้องถิ่นของตนเอง สินค้าจากไทยที่ผ่านมาทางช่องเม็ก ก็จะมารวมกันอยู่ที่นี่เหมือนเป็นคลังสินค้าใหญ่จากนั้นก็จะมีพ่อค้าท้องถิ่นรับไปจำหน่ายยังหมู่บ้านตำบลของตนเอง ตลาดดาวเรืองจึงมีความคึกคักกันตลอดทั้งวัน

 

tour-dao-hueng-pakse-market-champasak-laos tour-dao-hueng-pakse-market-champasak-laos

 

ที่นี่เป็นตลาดละลายทรัพย์ของนักท่องเที่ยวคนไทย ที่เด่นๆและนิยมซื้อกัน ก็เป็นพวกเครื่องเงิน เครื่องทองเหลือง ผ้าลาว ส่วนของกิน ก็แนะนำทับทิมที่มาจากจีน บอกหวานและอร่อยมาก พอรถจอดให้ช้อป ดูเหมือนว่าหลายคนทำตามที่ไกด์ลาวบอก คือมุ่งดิ่งไปร้านเครื่องเงิน เครื่องทอง ที่อยู่ด้านหน้าอาคารทันที ส่วนทับทิม ก็เห็นมีแต่นักท่องเที่ยวจากไทย มะรุม มะตุ้มจนไม่เห็นคนขาย สินค้าจากจีนนี้คนขายไม่ใช่คนลาวนะครับ โน่น..มาจากจีนกันโดยตรงกันเลยทีเดียว ประเภทมาเองขายเอง พูดไทยชัดบ้างไม่ชัดบ้าง แต่ก็ซื้อขายกันได้ ต่อรองได้ และหลอกคนไทยได้ รถท่องเที่ยวจากไทย มาจอดที่ตลาดนี้วันละไม่น้อย ทำให้พ่อค้าชาวจีนสามารถสื่อสารกับคนไทยได้ เขียนมาถึงตรงนี้ก็ขอแนะนำว่า ทับทิมจีนที่นี่ ต้องยกนิ้วให้เลย เนื้อทับทิมใสและหวานชนิดหาทานจากที่อื่นได้ยาก

 

แหล่งที่มาข้อมูลทัวร์ลาว : -

 

 

ตลาดดาวเรือง ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของลาวใต้

เที่ยวลาวใต้ได้ดำเนินมาถึงตอนที่ 7 ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายแล้วละครับ จากนี้ไปก็เป็นการเดินทางกลับเมืองไทยผ่านทางด่านช่องเม็ก เขตอำเภอสิรินทร จังหวัดอุบลราชธานี แต่ก่อนกลับบ้านก็ต้องซ้อปปิ้งซื้อของฝากกันตามธรรมเนียม แต่จะได้ของติดไม้ติดมือไปมากแค่ไหน ก็ต้องไปเดินดูกัน

 

เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองปากเซ ในแขวงจำปาสัก อาจเรียกว่าเป็นศูนย์การค้าของลาวใต้ก็ได้ แต่เป็นศูนย์การค้าไม่ได้ติดแอร์ ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวขนาดใหญ่ ภายในอาคารมีสินค้าพวกเสื้อผ้า เครื่องเงิน และ ของใช้ต่างๆ ส่วนรอบนอกอาคารก็เป็นสินค้าทางการเกษตร ข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องไม้เครื่องมือทางการเกษตร ส่วนประเภทพืชผักก็จะวางขาย หรือกองขายตามทางเดินรอบอาคาร

 

สำหรับคนไทยเรียกตลาดดาวเรืองนี้ว่า “ตลาดละลายทรัพย์ของคนไทย “

 

ตอนเช้าๆจะเห็นรถทัวร์ของไทยจอดริมถนนหน้าตลาดดาวเรืองหลายคัน รวมทั้งรถตู้อีกจำนวนไม่น้อย เรียกว่าเป็นสถานที่รวมพลนักท่องเที่ยวจากไทย และปิดท้ายโปรแกรมเที่ยวลาวใต้พร้อมๆกัน

 

ศูนย์การค้าดาวเรืองหรือตลาดดาวเรือง เทียบกับบ้านเราก็คล้ายๆกับตลาดไทในจังหวัดประทุมธานี ซึ่งเป็นตลาดขายส่งพืชผักต่างๆที่มาจากทุกภาค จากนั้นก็จะมีพ่อค้ารายใหญ่มารับซื้อไปจำหน่าย ส่วนตลาดดาวเรืองก็มีลักษณะคล้ายกัน ชาวบ้านหรือพ่อค้าจะรับซื้อจากชาวบ้านในปริมาณมากๆ แล้วนำสินค้ามาขายที่ตลาดดาวเรือง จากนั้นก็จะมีมีพ่อค้ามารับซื้อไปจำหน่ายในท้องถิ่นของตน บางแห่งก็ใช้เวลาเดินทางกันนานครึ่งวันค่อนวัน กว่าจะถึงหมู่บ้านของตนเอง มีต่างกับการเดินทางของชนบทไทยในสมัยก่อนที่ใครจะเข้าเมืองก็ต้องมาให้ทันรถในตอนเช้าๆ ที่อาจมีเพียงคันเดียว และเที่ยวเดียว สำหรับบางหมู่บ้าน และจะเดินทางกลับก็ช่วงบ่ายๆถึงเย็น กว่าจะมาถึงหมู่บ้านก็ค่ำพอดี

 

การออกมาซื้อข้าวซื้อของของชาวบ้านแต่ละครั้งก็เป็นเรื่องใหญ่โต ซื้อกันครั้งละมากๆ มีทั้งน้ำตาล ข้าวสาร ครั้งละหลายๆ กระสอบ บรรทุกกันทั้งในรถและบนหลังคา หนักกว่านั้นก็อาจมีลูกหมู หรือเป็ดไก่ นั่งรถไปก็ได้กลิ่นขี้หมูขี้ไก่คละคลุ้งกันไป เมืองไทยอาจไม่มีสิ่งเหล่านี้ แต่ในลาวยังมีให้เห็น และเป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่นี่

 

มาเที่ยวประเทศที่ยังค่อยเจริญนัก เรามักจะพบเห็นภาพเก่าๆ แปลกๆ ประเภทย้อนยุคอยู่หลายอย่าง อาจเป็นเรื่องตลกขบขันสำหรับคนไทย แต่บ้านเราก็เคยมีสิ่งเหล่านี้มาก่อน

 

นอกจากตลาดดาวเรืองจะเป็นแหล่งซื้อขายสินค้าจากท้องถิ่นแล้ว ก็ยังเป็นตลาดนำเข้าสินค้าจากไทยและจากประเทศจีน ที่มาจากไทยก็เป็นพวกสินค้าอุปโภค บริโภค เช่นกะปิ น้ำปลา สบู่ ยาสีฟัน อาหารแห้ง เครื่องใช้ที่ทำจากพลาสสติก รวมถึงบะหมีกึ่งสำเร็จที่ขายดีมากในประเทศลาว ส่วนสินค้าที่นำเข้ามาจากประเทศจีน หรือคนจีนเป็นผู้นำเข้ามาขายเองไก้แก่ เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องไม้เครื่องมือที่เป็นประเภทโลหะ หรือเครื่องเหล็ก

 

ตลาดดาวเรืองจึงเหมือนเป็นคลังสินค้าจากไทย ก่อนที่จะกระจายไปตามเมืองต่างๆของลาว และสินค้าจากไทยก็เป็นที่นิยมในหมู่คนลาว บอกว่าคุณภาพดีกว่าสินค้าจากจีน

 

แม้สินค้าจากจีนหลายอย่างมีคุณภาพด้อยกว่าที่ผลิตจากเมืองไทย แต่ด้วยราคาที่ต่ำมาก จึงให้ขายดีในระดับชาวบ้าน และยังแพร่กระจายไปในหลายประเทศทางแถบอินโดจีน รวมทั้งไทยด้วย ไปเที่ยวประเทศไหนก็หนีไม่พ้นต้องพบกับสินค้าจากจีนที่ทะลักเข้าไปขายในประเทศนั้น มันเป็นกระแสที่หลายประเทศไม่สามารถต้านทานได้ ขณะเดียวกันรัฐบาลจีนก็พยายามทุกวิถีทางที่จะให้สินค้าของคนระบายออกสู่ต่างประเทศให้มากที่สุด เช่นสร้างถนนเชื่อมต่อในหลายประเทศ เพื่อความสะดวกด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ แต่จริงๆแล้วก็เพื่อเป็นที่ระบายสินค้าของตนด้วย ประเภทยิงปืนนักเดียวแต่ได้นกหลายตัว

 

ลาวใต้ประกอบไปด้วยชนเผ่าต่างๆมากมาย จากการสำรวจพบว่ามีถึง 60 ชนเผ่า

 

นับว่ามีมากกว่าที่คิด นั่งรถออกไปนอกเมืองเราจะเห็นหมู่บ้านชนเผ่ามากมาย หรือในตลาดดาวเรืองก็เห็นมาจับจ่ายซื้อของ แต่ทั้งหมดนี้ก็คือคนลาว แต่เผ่าพันธ์อาจเป็นล่าวโซ่ง ลาวลุ่ม ลาวสูง ลาวเทิง ไทดำ ไทขาว ฯลฯ

 

แต่ที่ปากเซ มีชนกลุ่มใหม่ที่เข้ามาอาศัยในช่วงที่ฝรั่งเศสปกครอง และเข้ามามากขึ้นในยุคสงครามคอมมิวนิสต์ ก็คือคนเวียดนาม ซึ่งมีชายแดนติดกับประเทศลาว

 

ปากเซเป็นเมืองที่มีชาวเวียดนามอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะนั่งรถผ่านไปที่ถนนเลียบริมโขง ไกด์ลาวชี้ให้ดูหมู่บ้านชาวเวียดนามกลุ่มใหญ่ ส่วนมีจำนวนเท่าใดนั้นก็จำไม่ได้แล้วครับ แต่คิดว่ามีจำนวนไม่น้อย เฉพาะในตลาดดาวเรือง ก็เห็นคนหน้าตาออกไปทางเวียดนาม รวมทั้งแต่งกายแบบคนเวียดนามก็มีไม่น้อย

 

สังเกตไม่ยากครับ ยิ่งเป็นผู้หญิงแล้วก็ดูไม่ยาก คนเวียดนามจะมีรูปร่างสูงโปร่ง ตรงข้ามกับคนลาวส่วนใหญ่ตัวเล็กกว่า ส่วนใบหน้าคนลาวจะออกกลมๆผิวคล้ำ ส่วนชาวเวียดนามจะมีใบหน้ารูปไข่ และมีผิวขาวกว่า ที่สำคัญหน้าตาดีกว่าคนลาวด้วย เหมือนกับที่มาให้ดูเป็นตัวอย่างในชุดที่ 7 นี้

 

หลังจากที่พวกเราลงรถไปอุดหนุนสินค้าจากตลาดดาวเรืองกันนานพอสมควรก็ได้เวลาขึ้นรถกลับประเทศไทย

 

ลาวใต้ น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชอบท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ และเป็นธรรมชาติที่หาดูไม่ได้ในบ้านเรา อาจตื่นตาไปกับป่าไม้ หรือลำน้ำโขงที่กว้างใหญ่ไพศาล รวมทั้งนิสัยอันใสซื่อของชาวลาว ที่สามารถพูดกับคนไทยได้อย่างเข้าใจ และอย่าได้แปลกใจที่คนลาวรู้เรื่องเมืองไทยไปหมด แม้กระทั่งชื่อดารา หรือนักร้องลูกทุ่ง เพราะคนลาวชอบดูละครโทรทัศน์จากไทย และรู้ข่าวสารเมืองไทยได้เป็นอย่างดี

 

หากคิดจะมาเที่ยวลาวใต้ประเภทมากันเอง ก็เพียงแต่ทำบัตรผ่านแดนที่ด่านช่องเม็ก โดยไม่จำเป็นต้องทำพาสปอร์ต จากกรุงเทพมีรถ บขส.วิ่งจากหมอชิต ไปถึงปากเซ วันละ 1 เที่ยว หรืออาจไปตั้งหลักที่สถานีขนส่งของจังหวัดอุบลราชธานีโดยตรงก็ได้ การเดินทางในเส้นทางนี้เข้าใจว่า บริษัทขนส่งจากไทยได้รับสัมปทานการเดินรถ เพราะสีสันรถ บขส.ของลาว กับของไทย ดูคล้ายๆกัน เข้าใจว่าเมื่อรถจากหมอชิตมาถึงท่ารถขนส่งที่อุบลแล้ว ก็ต้องเปลี่ยนถ่ายรถเป็น บขส.ลาว โดยมีคนขับเป็นคนลาว

 

ส่วนการท่องเที่ยวเมื่อมาถึงปากเซแล้ว แนะนำให้ใช้บริการทัวร์ของท้องถิ่นจะสะดวกกว่า โปรแกรมเที่ยวก็จะพาไปชมน้ำตกที่มีชื่อของลาว เช่นตาดฟาน ตาดผาส้วม หลี่ผี คอนพะเพ็ง รถที่ใช้บริการจะป็นมินิบัส ติดแอร์จุได้ราว 20 ที่นั่ง หากไปเองโดยเหมารถสะกายแล๊ปอาจไม่คุ้ม นอกจากว่ามาเป็นกลุ่มใหญ่ๆ

 

หรือหากใช้บริการจากบริษัททัวร์จากเมืองไทย ก็มีหลายบริษัท ซึ่งรถทัวร์จากไทยสามารถผ่านเข้าไปในแดนลาวได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายรถเหมือนประเทศอื่นๆ หรือหากจะขับรถไปเองก็ได้เช่นกัน แต่ก็ไม่อยากแนะนำ เพราะในลาววิ่งชิดขวา ต่างกับบ้านเราที่วิ่งชิดซ้าย สัตว์เลี้ยงในลาวก็มาก จึงต้องระมัดระวังมากขึ้น อีกอย่างหนึ่งก็เรื่องพฤติกรรมในการใช้รถใช้ถนน คนลาวยังไม่ค่อยจะปฏิบัติตามกติกา หรือมีความระมัดระวังมากนัก และเดาใจยาก อุบัติเหตุจากการขับรถเร็วจึงเกิดขึ้นได้เสมอ หากเกิดอะไรขึ้นก็อย่าได้โทษคนลาวว่าไม่ปฏิบัติตามกฏจราจร ต้องโทษตัวเองว่าไม่รู้จักระมัดระวังมากกว่า

 

แหล่งที่มาข้อมูลทัวร์ลาว : เวปโฟโต้ออนทัวร์

ตลาดเช้า หลวงพระบาง ลาว

tour-morning-market-luang-prabang-laos tour-morning-market-luang-prabang-laos

 

ตลาดเช้าหลวงพระบาง

อยู่ริมแม่น้ำโขง ใกล้ที่ทำการไปรษณีย์มีสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน ทั้งเครื่องนุ่งห่ม กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับที่ทำจากทอง นาค และเงิน แต่จะหนักไปทางอาหาร ทั้งของสดและของแห้ง เช่น ไคแผ่น ข้าวจี่ รวมทั้งเป็นแหล่งอาหารเช้าที่น่าสนใจ เช่น คั่วหมี่ กาแฟนม (กาแฟเย็น) ข้าวจี่ย่างจิ้มแจ่วบอง ไส้อั่ว ฯลฯ

 

tour-morning-market-luang-prabang-laos tour-morning-market-luang-prabang-laos

tour-morning-market-luang-prabang-laos tour-morning-market-luang-prabang-laos

 

แหล่งที่มาข้อมูลทัวร์ลาว : เวป –

 

ตลาดเช้าหลวงพระบาง "สีสันยามเช้าในเมืองหลวงพระบาง"
เป็นตลาดที่ชาวหลวงพระ บางนำผลิตผลกรเกษตรมาวางขายตามถนนเลียบแม่น้ำโขง เช่น ของป่า ผัก ที่หามาได้มาวางขายกัน และโดยเฉพาะปลาแม่น้ำโขง ซึ่งมีอยู่มากมายเนื่องจากหลวงพระบางเป็นเมืองที่ติดกับแม่น้ำโขงดังนั้น ปลาที่ตลาดเช้าหลวงพระบางจะสดใหม่มาก ซึ่งพ่อค้าแม่ขายจะติดตลาดขายของกันแต่เช้ามืด

 

กาแฟประชานิยมหลวงพระบาง "เข้มข้นสไตล์กาแฟแท้ของลาว"
ร้านกาแฟประชานิยมหลวงพระบางเป็นเพิงอยู่ใต้ต้นมะม่วงใหญ่ ติดถนนเลีียบแม่น้ำโขงซึ่งเป็นท่าเรือข้ามฟากไปยังเมืองเชียงแมน ร้านมี กาแฟลาว ขนมคู่(ปาท่องโก๋) สำหรับคอกาแฟที่อยากลิ้มลองกาแฟลาวจากเมืองปากซองต้องมาที่นี่ เพราะเจ้าของเขาใช้กาแฟคั่วบดซึ่งสั่งตรงมาจากภาคใต้ของลาวเลยทีเดียว

 

แหล่งที่มาข้อมูลทัวร์ลาว : เวปลานนาทัวร์ริ่ง

ตลาดช่องเม็ก ลาว

tour-chong-mek-market-laos

 

ตลาดชายแดนช่องเม็ก-วังเต่า

ช่องเม็ก-วังเต่า เป็นจุดผ่านแดนไทย-ลาว ตั้งอยู่ในเขตอำเภอสิรินธร ห่างจากตัวจังหวัดราว 90 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ชายแดนติดต่อระหว่างไทยกับลาว ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนจุดเดียวในภาคอีสาน ที่สามารถเดินทางไป ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยทางพื้นดิน ในขณะที่จุดอื่นจะต้องข้ามลำน้ำโขง และเป็นที่สิ้นสุดของทางหลวงหมายเลข 217 จากอุบลราชธานี

ถนนสายนี้เชื่อมกับถนนในเขตลาว เข้าไปสู่เมืองปากเซในอีก 38 กิโลเมตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงสายเอเซีย บริเวณช่องเม็กมีด่านตรวจคนเข้าเมือง และร้านขายสินค้าที่นำเข้ามาจากลาว และหากข้ามไปทางฝั่งลาว จะมีร้านค้าปลอดภาษีตั้งบริการอยู่

ช่องเม็กนั้น นับเป็นด่านชายแดน ที่เป็นเสมือนประตูสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นเส้นทางสู่เมืองปากเซ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ที่ยังคงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวลาว ที่เต็มไปด้วยสีสัน และยังสามารถเดินทางต่อไปยังน้ำตกหลี่ผี และน้ำตกคอนพะเพ็ง น้ำตกที่แม่น้ำโขงทั้งสาย ไหลต่างระดับกันลงมา อย่างยิ่งใหญ่ตระการตา

 

tour-chong-mek-market-laos tour-chong-mek-market-laos

 

การเดินทางข้ามไปยังปากเซนั้น นักท่องเที่ยวชาวไทย สามารถนำหลักฐานไปยื่นคำร้องขอทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว ได้ที่ ที่ทำการปกครองจังหวัดอุบลราชธานี (ฝ่ายความมั่นคง) ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ทุกวัน ในเวลาราชการ หรืออาจยื่นคำขอได้ที่ ที่ว่าการอำเภอสิรินธร ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ หรือที่ จุดผ่านแดนชั่วคราวช่องเม็ก ยื่นเรื่องแล้ว สามารถรอรับหนังสือผ่านแดนชั่วคราวได้เลย หากนักท่องเที่ยวมีพาสปอร์ตแล้ว ไม่ต้องทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราว

บัตรผ่านแดนชั่วคราว มีกำหนดเวลาท่องเที่ยวในลาวได้ 3 วัน 2 คืน หากจะนำรถเข้าไปทางฝั่งลาว ต้องนำรถไปทำพาสปอร์ตรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัด ผู้ขับขี่จะต้องนำสำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และสำเนาใบเสียภาษีรถยนต์ ไปยื่นเรื่องขออนุญาตด้วย

ด่านชายแดนช่องเม็ก เปิดทำการเวลา 08.00 - 18.00 น.

 

tour-chong-mek-market-laos tour-chong-mek-market-laos

 

ค่าใช้จ่ายฝั่งไทย
ค่าทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว คนละ 30 บาท

ค่าใช้จ่ายฝั่งลาว
ค่าเหยียบแผ่นดิน สปป.ลาว คนละ 20 บาท
ค่าธรรมเนียมท่องเที่ยวลาว คนละ 400 บาท
ค่าธรรมเนียมรถ ค่าใช้ทาง คันละ 800 บาท
ค่าประกันภัยรถ ประมาณ คันละ 300 - 500 บาท

ค่าใช้จ่ายขากลับ
หากเกิน 16.00 น. ต้องเสียค่าล่วงเวลาที่ ตม.ฝั่งลาว คนละ 150 บาท ส่วนฝั่งไทย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

ขยายเวลาเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก เริ่ม 15 มี.ค.นี้
กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศขยายเวลาเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก อำเภอสิรินธรจังหวัดอุบลราชธานี ตรงข้ามกับด่านสากลบ้านวังเต่า แขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จากเวลา 06.00-18.00น.ขยายเวลาเป็น 06.00-20.00 น.ทุกวัน

ระเบียบการข้ามแดน ด่านพรมแดนช่องเม็ก
การเดินทางข้ามไปยังปากเซนั้น นักท่องเที่ยวชาวไทย สามารถนำหลักฐานเป็นสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 2 ชุด พร้อมรูปถ่าย 1-2 นิ้ว จำนวน 2 รูป ไปยื่นคำร้องขอทำบัตรผ่านแดนได้ ยื่นเรื่องแล้ว สามารถรอรับหนังสือผ่านแดนชั่วคราวได้เลยครับ

การนำยานพาหนะออกต่างประเทศ และนำกลับเข้ามาในราชอาณาจักร
เพื่อความสะดวกในการนำยานพาหนะออกนอกราชอาณาจักร กรุณาเตรียมเอกสาร พร้อมคำร้องขอนำยานพาหนะออกนอกราชอาณาจักร ยื่นเรื่องกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง

นำรถเข้าลาว ต้องทำพาสปอร์ตรถ
รถทุกชนิดที่เดินทางสัญจรไปมาใน สปป.ลาว รถทุกคันต้องมีหนังสือเดินทาง (หรือพาสปอร์ต) ประจำรถคันนั้นๆ เพื่อตรวจสอบได้อยู่ตลอดเวลา พร้อมกับติดสติกเกอร์เป็นภาษาอังกฤษตัวT ที่ย่อมาจากคำว่า "ไทยแลนด์"

 

tour-chong-mek-market-laos

 

แหล่งที่มาข้อมูลทัวร์ลาว : เวป –

 

ช่องเม็ก - ปากเซ (ลาวใต้)

ช่องเม็ก คือ ด่านชายแดน ไทย (อุบลฯ) - ลาว(ปากเซ ลาวใต้)เป็นโปรแกรมท่องเที่ยวอีกแห่งที่ทางไทยทัวร์อยากแนะนำ หากเราจะเดินทางไปเที่ยวลาวใต้ จ.ปากเซ ต้องผ่าน ช่องเม็กแห่งนี้ ซึ่งเป็นด่านชายแดนไทย-ลาว แห่งเดียวที่ไม่มีแม่น้ำโขงขวางกั้น ในกระทู้ข้างล่างนี้ผมจะเล่าให้ฟังมามีอะไรน่าสนใจบ้าง

 

ก่อนจะข้ามแดน เราควรเตรียมตัวบัตรผ่านแดนช่วงคราวก่อน สามารถทำได้ที่ สถานทีขนส่งใกล้จุดตรวจคนเข้าเมือง ด่านเปิด-ปิด 08.00-18.00 น. ทุกวัน สำหรับรถยนต์ทีมีสติกเกอร์ตัว T คือมีบัตรผ่านอยู่แล้ว เข้า-ออก ได้เลย หากไม่มีต้องกลับไปทำที่ตัวอำเภอเมือง จ.อุบลฯ ก่อน ใช้เวลาครี่งค่อนวันแน่ รถยนต์สามารถผ่านเข้าออกได้ ตั้งแต่เวลา 08.00-12.00 และ 13.00-16.30 น. หากเป็นวันหยุดต้องเสียค่าล่วงเวลานิดหน่อย(5 บาท/คน หรือ 25 บาท/รถ 1 ค้น) แต่ขับได้ภายใน รัศมี 1 กม.เท่านั้น หากเกินกว่านี้ ต้องเสียค่าผ่านแดน

 

ค่าผ่านแดน คนละ 30 บาท สำหรับเด็กไม่เสีย แต่ต้องแจ้งชื่อว่าเป็นผู้ติดตามลงในบัตรผ่านแดน(ชั่วคราว) ใช้เวลาทำบัตร ประมาณ 20-30 นาที (ไม่นาน)

 

แหล่งที่มาข้อมูลทัวร์ลาว : เวปไทยทัวร์

ตลาดปลอดภาษี นครหลวงเวียงจันทน์ ลาว

tour-duty-free-market-vientiane-laos

 

ตลาดปลอดภาษี นครหลวงเวียงจันทน์

 

tour-duty-free-market-vientiane-laos-2
tour-duty-free-market-vientiane-laos-3
tour-duty-free-market-vientiane-laos-4

 

แหล่งที่มาข้อมูลทัวร์ลาว : -

 

ตลาดปลอดภาษี

อยู่ที่ด่านถาวรสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 (ฝั่งลาว) เปิดบริการ 08.30-17.30 น. ของทุกวัน

ร้านค้าปลอดภาษีดาวเรืองจำหน่ายกาแฟดาวและสินค้าอื่นๆ ที่มีคุณภาพดี จำหน่ายเหล้า ไวน์ บุหรี่ น้ำหอม ราคาถูก และกระเป๋าเลียนแบบเป็นสินค้าที่นักซื้อนิยมชมชอบมาก มีสินค้าจากประเทศต่างๆได้แก่ จีน ไทย เวียดนาม ฝรั่งเศส ฯลฯ

 

แหล่งที่มาข้อมูลทัวร์ลาว : เวปสำนักงานผู้ช่วยทูตทหาร ไทย/เวียงจันทน์

ตลาดดาวเรือง ดิวตี้ฟรี แขวงจำปาสัก ลาว

tour-dao-hueng-duty-free-champasak-laos

 

ตลาดดาวเรืองดิวตี้ฟรีลาวใต้

ตลาดดาวเรืองเป็นตลาดที่ใหญ่แห่งหนึ่งของแขวงจำปาสัก โดยตลาดแห่งนี้ได้สร้างขึ้นโดย เจ้ดาวเรือง (เจ้าของตลาด) คนลาวเรียก แม่ดาวเรือง คือเศรษฐี ผู้มั่งมี ในลาวใต้ผู้เป็นเจ้าของตลาดดาวเรือง
ตลาดดาวเรืองเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด ในจำปาสัก เรียกได้ว่าเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในลาวใต้ ลักษณะตลาดเป็นอาคารชั้นเดียวไม่ซับซ้อนเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่คุ้นเส้นทาง ภายในตลาดมีสิ้นค้าให้เลือกซื้อมากมาย เช่นเสื้อผ้า เครื่องเงิน ของใช้ต่างๆ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากจากตลาดแห่งนี้ได้ในหลายรูปแบบ ไม่ต้องแวะซื้อที่อื่นให้เสียเวลา เพราะสิ้นค้าในตลาดเหมาะสำหรับคนทุกวัย ส่วนรอบนอกของตลาดจะมีสิ้นค้าทางการเกษตรขาย

 

tour-dao-hueng-duty-free-champasak-laos tour-dao-hueng-duty-free-champasak-laos

 

ตลาดแห่งนี้เป็นศูนย์รวมของประชาชนชาวลาวที่มาประกอบอาชีพและทำธุรกิจที่นี่เป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้ตลาดแห่งนี้พลุกพล่านไปด้วยผู้คนมากมายไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มาจับจ่ายซื้อสินค้า พ่อค้าแม่ค้า และนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาที่ตลาดแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย
ในช่วงเช้าจะมีรถทัวร์จากบริษัททัวร์ต่างๆจอดอยู่ริมถนนหน้าตลาดเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่า เป็นที่รวมตัวกันของนักท่องเที่ยวในทริปการท่องเที่ยวลาวใต้ ถ้าเรามาถึงตลาดในช่วงจะมีของสด ผักสดมากมายให้เลือกซื้อ ของท้องถิ่นของถิ่นนั้นมากมายให้ท่านเลือกซื้อ ตลาดเปิดตั้งแต่ ตีสี่ถึงห้าโมงเย็น

 

tour-dao-hueng-duty-free-champasak-laos

 

เป็นตลาดใหญ่ที่สุดของปากเซ จำปาสัก ลาวใต้ ตลาดดาวเรืองตั้งอยู่ไม่ไกลจากสะพานข้ามโขง หรือ สะพานมิตรภาพลาว-ญี่ปุ่น ตลาดดาวเรืองถือว่า เป็นศูนย์การค้าขายที่สำคัญแห่งหนึ่งของปากเซ มีของขายแบบว่าสากกะเบือยันเรือรบ (ในลาวใต้หาซื้อของกันที่นี่ไม่ผิดหวังซื้อของครบพบของถูก) ตลาดดาวเรืองแบ่งเป็น 2 โซน โซนขายเครื่องอุปโภค เช่นเสื้อผ้าที่นำมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศจีนและไทยเรา ส่วนโซนบริโภคก็จะเป็นอาหารตามท้องถิ่น กุ้ง หอย ปู ปลา ตลอด ถึง สัตว์ป่าต่างๆ ที่ บ้านเราไม่มีให้เห็นกันในตลาดสดต่างๆ
จุดเด่นของตลาดมีสิ้นค้าราคาถูกมากมาย เพราะเหตุนี้คนไทยจึงเรียกตลาดนี้ว่า .ตลาดละลายทรัพย์. สิ้นค้าในตลาดไม่ได้มีแค่สิ้นค้าในท้องถิ่นลาวใต้อย่างเดียว ยังมีทั้งสิ้นค้าที่นำเข้าจากจีนและไทยสิ้นค้าที่มาจากไทยก็จะเป็นจำพวก สิ้นค้าอุปโภค บริโภค ส่วนสิ้นค้าที่มาจากประเทศจีนจะเป็นสิ้นค้าจำพวกเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเงินหรือโลหะ ร้านค้าหลักๆที่เราจะเห็นเยอะที่สุด ร้านทอง ร้านเสื้อผ้า ร้านขายโทรศัพท์ สิ้นค้าในตลาดจะมีราคาถูกกว่าที่อื่น เรียกได้ว่าถ้ามาลาวใต้ห้ามพลาดตลาดดาวเรืองเป็นที่สุดท้ายก่อนกลับบ้าน ยังไงลองช้อปโปรแกรมทัวร์ได้ที่นี่นะคะ

ค้นหาที่ท่องเที่ยว


Thailand Tourism Standard

ทัวร์แนะนำ

ผู้เข้าชม

มี 908 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์