รับจัด Outing, Team Building, CSR, Walk Rally, สัมนานอกสถานที่, ดูงาน ในประเทศและโซนเอเชีย
สำหรับบริษัทในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล และ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง
084-160-0210 , 02-733-0683

ทัวร์พม่า-ย่างกุ้ง-เจดีย์ชเวดากอง-หงสาวดี-พระธาตุอินทร์แขวน 4 วัน (8M)

7323-tour-myanmar-yangon-chwaydakong-hongsawadee-phathart-inquan-4-days-8m

โปรแกรมทัวร์พม่า  จะพาท่านเที่ยวชมบรรยากาศเก่าแกาที่เมืองหงสาวดี  กราบนมัสการเจดีย์ไจ้ปุ่น  พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว พระธาตุมุเตา เทพทันใจและพระมหาเจดีย์ชเวดากอง จากนั้นเที่ยวชมพระราชวังบุเรงนอง วัดพระหินอ่อน และปางช้างเผือก  และในโปรแกรมทัวร์พม่านี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่อยู่ในโปรแกรมนี้

ราคาติดต่อเจ้าหน้าที่

 

download-booking-program-tour

 

download-program-tour

tour-code MMAJ7-4BKK

 

ทัวร์วันที่ 1) กรุงเทพฯ - ย่างกุ้ง (-/-/D)

17.00

คณะทัวร์พร้อมกันที่ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ N 01-04 สายการบิน Myanmar Airways เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และ อำนวยความสะดวกเอกสารการเดินทางแก่ท่าน

19.20

ออกเดินทางสู่ กรุงย่างกุ้ง โดยสายการบินเมียนม่าร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 8M332

20.00

เดินทางถึง สนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางเข้าตัวเมืองย่างกุ้ง ( เวลาท้องถิ่นที่เมียนมาร์ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง )

รับประทานอาหาค่ำ ณ ภัตตาคาร เมนู...เป็ดปักกิ่ง+สลัดกุ้งมังกร

พักที่ Millennium Hotel หรือเทียบเท่า
(พรุ่งนี้เช้า เป็นวันที่คณะต้องเดินทางขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน กรุณาเตรียมกระเป๋าใบเล็กสำหรับค้างคืน 1 คืน บนพระธาตุอินทร์แขวน)

ทัวร์วันที่ 2) ท่องเที่ยวหงสาวดี–เจดีย์ไจ๊ปุ่น–พระนอนชเวตาเลียว–เจดีย์ชเวมอดอร์(พระธาตุมุเตา)–พระราชวังวังบุเรงนอง - พระธาตุอินทร์แขวน (B/L/D)

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองหงสาวดี หรือ พะโค (ด้วยรถโค้ชปรับอากาศ) อยู่ห่างจากเมืองย่างกุ้ง 80 กิโลเมตร ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของสหภาพพม่ามาก่อน ตั้งอยู่ใกล้เมืองเมาะตะมะ ทางตอนใต้ของประเทศพม่า ซึ่งอยู่ทางใต้ของ เมืองแปร เมืองคัง ยะไข่ อังวะ พุกาม นครหงสาวดีเป็นเมืองหลวงของเขตหงสาวดี ๆ เป็นเมืองของชาวมอญมาก่อนในอดีต ก่อนที่พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้จะยึดครองได้ ในปี พ.ศ. 2082 เมืองหงสาวดีเจริญรุ่งเรืองสุดขีดในรัชสมัยของพระเจ้าบุเรงนอง หงสาวดีหรือ พะโค มีตำนานเล่าว่า เมืองพะโคเดิมเป็นเกาะเล็ก ๆ ในอ่าวเมาะตะมะ เล็กเสียจนมีที่พอให้หงส์ร่อนลงมาพักได้เพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น หงส์เพศเมียหรือนางหงส์จึงต้องอาศัยเกาะอยู่บนหลังคู่ของมัน เมื่อเดินทางถึงเมืองหงสาวดีจะสังเกตุเห็นหงส์สองตัวซึ่งอาศัยอยู่บนหลังของหงส์ตัวผู้ และ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองหงสาวดี

จากนั้นนำท่านกราบนมัสการ เจดีย์ไจ้ปุ่น ซึ่งจะถึงก่อนเดินทางเข้าตัวเมืองหงสาวดี พระเจ้าธรรมเจดีย์ทรงสร้างขึ้นในปี 1467 พระเจดีย์ก่อเป็นแกนทึบรูปทรงสี่เหลี่ยมอยู่ตรงกลาง มีพระพุทธรูปนั่งสูง 30 เมตรประดิษฐานอยู่สี่ทิศ แทนองค์สมเด็จพระสมณโคดม (หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ) กับพระอดีตพุทธเจ้าอีกสามองค์ อันได้แก่ พระโกนาคมน์ (หันพระพักตร์ไปทางทิศใต้) พระกกุสันธะ (หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก) พระกัสสปะ (หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก) ซึ่งพระพุทธรูปกัสสปะนั้นชำรุดผุพังมาก เนื่องจากเกิดแผ่นดินไหวในปี 1930 และได้บูรณะขึ้นใหม่เมื่อ พ.ศ.2019 มีตำนานว่า เจดีย์ไจ้ปุ่น สร้างโดยสี่สาวพี่น้องที่อุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนาสร้างพระพุทธรูปแทนตนเอง และ สาบานตนไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ เชื่อกันว่าหากคนใดคนหนึ่งแต่งงาน พระพุทธรูปก็จะพังลงมา

นำท่านนมัสการ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่าทั่วประเทศ เป็นพระนอนที่งามที่สุดในประเทศ องค์พระยาว 55 เมตร สูง 16 เมตร พระพุทธไสยาสน์แห่งพะโค (เมืองหงสาวดี) องค์นี้สร้างขึ้นใน ค.ศ. 994 ตามบัญชาของพระเจ้ามินกะดีป่า ก่อนหน้าที่พวกบะหม่า(พม่า) จะเข้ามามีอำนาจเหนือพวกมอญ แต่พระองค์ก็ถูกทิ้งให้ผุพังอยู่เกือบ 500 ปี จนถึงรัชสมัยของพระเจ้าธรรมเจดีย์ทรงสั่งให้ข้าทาสทหารได้บูรณะขึ้นใหม่ เมื่อเข้าสู่ ศตวรรษที่ 18 พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียวจึงถูกทิ้งร้าง และได้ปล่อยให้ป่ารกชัฏขึ้นปกคลุมอีกครั้งจนกระทั่งปี 1881 ผู้รับเหมาสร้างทางรถไฟให้กับอังกฤษกลุ่มหนึ่งได้พบเข้าโดยบังเอิญแต่ก็คิดว่ามันเป็นแค่ กองอิฐกองหิน ต่อมาทางการจึงได้ถางป่าออกในปี 1906 แล้วใช้เหล็กปลูกโรงเรือนช่วยคุ้มแดดคุ้มฝนให้แต่ดูไม่ดีเท่าไหร่ ครั้นถึงปี 1948 จึงทำการบูรณะพระองค์ขึ้นใหม่อีกครั้ง มีการทาสีและปิดทองล่องชาดอย่างงดงาม ได้ทำการบูรณะเลยมาจนถึงปัจจุบัน ตรงทางขึ้นตลอดสองข้างให้ท่านช้อปปิ้งของฝากจากเมืองหงสาวดี อาทิ ผ้าพื้นบ้าน ไม้แกะสลัก เรือสำเภา ฯลฯ

จากนั้นนำท่านนมัสการ เจดีย์ชเวมอดอร์ (พระธาตุมุเตา) โบราณสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในใจกลางเมืองหงสาวดี ซึ่งได้บูรณะขึ้นโดยพระเจ้าบุเรงนอง (พระเจ้าบะยิ่นเนาน์) เพื่อบรรจุพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้าเพื่อเสริมบารมีอันถือว่าเป็นพระเจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศพม่ามีตำนานอยู่ว่า เมื่อนายวานิชพี่น้องนามว่ามหาศาลกับจุลศาล เดินทางกลับมาจากอินเดีย ทั้งสองได้อันเชิญพระเกศธาตุของพระพุทธองค์มาด้วยสองเส้น เมื่อกลับมาถึงบ้านเกิดจึงได้สร้างสถูปเล็ก ๆ ครอบพระเกศธาตุเอาไว้ ในศตวรรษที่ 16 พระเจ้าปะหยิ่นหน่าวโปรด ฯ ให้แกะเอามณีบนยอดพระมหามงกุฏไปทำฉัตรยอดถวายเป็นพุทธบูชา ต่อมา พระเจ้าโบ่ต่อพญาทรงสร้างฉัตรองค์ใหม่ถวายและเสริมยอดขึ้นไปสูงถึง 90 เมตร ในศตวรรษที่ 20 ได้เกิดภัยธรรมชาติแผ่นดินไหวถึงสามครั้ง ครั้งสุดท้ายในปี ค.ศ. 1930 เกิดความเสียหายอย่างมาก จนถึงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ทำการบูรณะขึ้นใหม่จากแรงกายและกำลังทรัพย์ของผู้มีจิตศรัทธาจนถึงปัจจุบันพระเจดีย์สูงถึง 114 เมตร ถ้าเดินรอบ ๆองค์เจดีย์ท่านจะได้เห็นซากเจดีย์องค์เดิมที่พังทลายลงมาเมื่อเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และฉัตรยอดเจดีย์

จากนั้นนำท่านชม พระราชวังบุเรงนอง หากพูดถึงกษัตริย์ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งของเมืองหงสาวดีก็ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดโดดเด่นเท่าพระเจ้าบุเรงนอง หงสาวดีเจริญรุ่งเรืองสุดขีดในรัชสมัยของพระเจ้าบุเรงนอง โดยพระองค์ได้สร้างพระราชวังบุเรงนองขึ้นในปี พ.ศ. 2109 ชื่อ กัมโพชธานี เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางทางการปกครองและใช้ออกว่าราชการซึ่งนับเป็นพระราชวังใหญ่โตมีประตูทางเข้าออกถึง 10 ประตู สร้างโดยเกณฑ์ข้าทาสจากเมืองขึ้นต่าง ๆ โดยหนึ่งในนั้นมีเมืองเชียงใหม่และอยุธยารวมอยู่ด้วย จนถึงสมัยพระเจ้านันทบุเรงที่ เสด็จหนีพระนเรศวรไปเมืองตองอู และพวกยะไข่เผาทำลายหงสาวดีทรงทิ้งให้พระราชวังแห่งนี้รกร้างลงเป็นเวลาร่วม 3 ศตวรรษซึ่งพระราชวังเดิมนั้นเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ และ ถูกจับเป็นตัวประกันในคราวนั้นหลังจากนั้นไม่นาน เมืองอังวะก็กลายมาเป็นเมืองหลวงของประเทศพม่าโดยสมบูรณ์ก่อนที่พม่าทั้งประเทศจะเสียเอกราชให้ประเทศอังกฤษต่อมาในปี พ.ศ. 2533 ได้มีการค้นพบเสาและกำแพงเดิมที่ถูกฝังอยู่ใต้ดินรัฐบาลพม่าจึงได้ทำการขุดค้น และ สร้างพระราชวังบุเรงนองขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโดยถอดแบบจากของเดิม ซึ่งบางส่วนได้สร้างแล้วเสร็จไปแต่ยังคงมีอีกบางส่วนก็กำลังรอทุนในการก่อสร้าง

กลางวัน

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมืองหงสาวดี เมนู กุ้งแม่น้ำย่าง ท่านละ 1 ตัว

หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ คิมปูนแค้มป์ (เชิงเขาไจ้เที่ยว) ระหว่างทางผ่าน สะพานแม่น้ำสะโตง ในอดีตขณะที่สมเด็จพระนเรศวรกำลังรวบรวมคนไทยกลับอโยธยา ได้ถูกทหารพม่าไล่ตาม พม่าตามมาทันที่ริมฝั่งแม่น้ำสะโตง ในขณะ ที่ฝ่ายไทยได้ข้ามแม่น้ำไปแล้วพระองค์ได้คอยป้องกันมิให้ข้าศึกข้ามตามมาได้ได้มีการปะทะกันที่ริมฝั่งแม่น้ำสะโตงสมเด็จพระนเรศวรทรงใช้พระแสงปืนคาบชุดยาวเก้าคืบ ยิงแม่ทัพหน้าพม่าเสียชีวิตบนคอช้าง กองทัพของพม่าเห็นขวัญเสีย จึงถอยทัพกลับกรุงหงสาวดี พระแสงปืนที่ใช้ยิงแม่ทัพพม่าตายบนคอช้างนี้ได้นามปรากฏต่อมาว่า "พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง" นับเป็นพระแสง อัษฎาวุธ อันเป็นเครื่องราชูปโภคยังปรากฏอยู่จนถึงทุกวันนี้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึง คิมปูนแค้มป์ หยุดพักเปลี่ยนรถ เป็นรถบรรทุกหกล้อ เพื่อขึ้นบนภูเขาไจ้เที่ยว (ใช้เวลาเดินทางจากบริเวณนี้ประมาณ 1.5 ชั่วโมง) ท่านจะได้สัมผัสทัศนียภาพป่าเขาน้ำตก และ ลำธารอันสวยงามสองข้างทาง พร้อมสัมผัสอากาศเย็นซึ่งจะค่อยๆ เย็นขึ้นเรื่อยๆ เพราะเรากำลังเดินทางสู่ที่สูง (หากท่านต้องการนั่งเสลี่ยง เพิ่มค่าเสลี่ยงราคาไปกลับประมาณ เงินไทยไม่เกินท่านละ 850 บาทไม่รวมค่าทิป) (ลักษณะเสลี่ยงเป็นเก้าอี้ผ้าใบผูกกับไม้ไผ่ขนาดใหญ่ 2 ลำ หามด้วยคน 4 คน ข้างหน้า 2 ข้างหลัง 2 คน)

เดินทางถึง โรงแรมที่พัก Kyaithiyo Hotel//YoeYoe Lay Hotel นำท่านเช็คอิน จัดการเก็บสัมภาระเข้าที่พักให้เรียบร้อย

หลังจากนั้นนำท่านขึ้นนมัสการ องค์พระธาตุอินทร์แขวน พระธาตุอินทร์แขวนนี้นับเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพุทธศาสนิกชนชาวพม่า พระเจดีย์ไจ้ทีโย (พระธาตุอินทร์แขวน) อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร และเป็นที่มาและแรงบันดาลใจของกวีซีไรส์ ปี พุทธศักราช 2534 มาลา คำจันทร์ ที่แต่งวรรณกรรมเรื่อง “เจ้าจันทร์ผมหอม นิราศพระธาตุอินทร์แขวน ท่านจะได้สัมผัสกลิ่นอายพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงและบรรยากาศธรรมชาติที่สดชื่นและบริสุทธิ์ทั่วบริเวณอันกว้างขวางของลานพระธาตุอินทร์แขวนซึ่งให้ท่านได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติและนมัสการขอพรจากพระธาตุอินทร์แขวนอันศักดิ์สิทธิ์

สมควรแก่เวลานำท่านกลับสู่ ห้องอาหารของโรงแรม เพื่อ รับประทานอาหารค่ำ

ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

หลังอาหารเชิญท่านตามอัธยาศัย ท่านสามารถกลับขึ้นไปนั่งสมาธิ หรือ สวดมนต์ได้ตลอดคืน ถ้าจะสักการะกลางแจ้งเป็นเวลานานบริเวณระเบียงที่ยื่นสู่พระเจดีย์พระเจดีย์องค์นี้เปิดตลอดคืนแต่ประตูเหล็กที่เปิดสำหรับบุรุษเปิดถึงเวลา 22.00 น. เท่านั้น

ทัวร์วันที่ 3) ท่องเที่ยวพระพุทธไสยาสน์เจ้าทัตจี (พระตาหวาน) – เจดีย์โบดาทาวน์ – เทพทันใจ – มหาเจดีย์ชเวดากอง – โชว์นาฏศิลเมียนม่า (B/L/D)

5.00

เชิญท่านนมัสการ เจดีย์ไจ้ทีโย หรือ พระธาตุอินทร์แขวน ท่านสามารถทำบุญตักบาตรพระสงฆ์หรือถวายข้าวพระพุทธ มีชุดจำหน่ายบริเวณวัด เมื่อถวายข้าวพระพุทธนิยมจุดเทียนตามกำลังวันหรือจำนวนอายุ ท่านจะพบกับบรรยากาศยามเช้าที่สดชื่น ทิวทัศน์งดงาม ความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวพม่า สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนภูเขา ถ่ายภาพและชมทัศนียภาพรอบ ๆ พระธาตุ พิสูจน์ความมหัศจรรย์ว่าพระธาตุองค์นี้ตั้งอยู่ได้ อย่างไร โดยไม่ล้มหรือหล่นลงมา การที่ก้อนหินสีทองวางหมิ่นเหม่บนหน้าผามานานนับพันปี โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านล่างขึ้นไปก็ดูคล้ายกับลอยอยู่เหนือหน้าผา ราวกับพระอินทร์นำไปแขวนไว้กลางอากาศนับเป็นอัศจรรย์เจดีย์อย่างแท้จริง

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

จากนั้นให้ท่านเก็บสัมภาระพร้อมออกเดินทางกลับสู่ กรุงย่างกุ้ง ตามเส้นทางเดิม และ ตลอดสองข้างทาง ท่านจะได้เห็นทิวทัศน์อันงดงามยามเช้า วิถีการดำรงชีวิตของชาวพม่า

กลางวัน

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมืองหงสาวดีเมนู กุ้งแม่น้ำย่าง ท่านละ 1 ตัว

หลังอาหารนำท่านเดินทางต่อมุ่งหน้าสู่ เมืองย่างกุ้ง นำท่านสักการะ พระพุทธไสยาสน์เจ้าทัตจี หรือ พระตาหวาน ซึ่งเป็นพระที่มีความสวยงามอีกองค์หนึ่งของพม่า มีความยาวถึง 70 เมตร แต่เก่าแก่เพียงไม่กี่สิบปีและมีขนาดใหญ่กว่า พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว มีขนตาที่งดงามและดวงตาที่สง่างาม ซึ่งได้ให้ช่างที่ฝีมือการประดิษฐ์ที่ดีที่สุดในพม่าสร้างดวงตาขึ้น พระบาทมีภาพมงคล 108ประการ และ พระบาทซ้อนกันซึ่งแตกต่างกับศิลปะของไทยอย่างไรก็ดี วัดแห่งนี้จัดเป็นศูนย์กลางสำคัญในการศึกษาตำรับตำราทางพระพุทธศาสนา มีพระภิกษุจำพรรษาอยู่มากถึง 600 รูปนำท่านนมัสการเจดีย์โบดาทาวน์ (เจดีย์โปตาทอง) ซึ่งเป็นสถานที่สักสิทธิ์ ตามตำนานกล่าวไว้ เมื่อราว 2000 ปีก่อนกษัตริย์มอญมีนามว่า พระเจ้าโอกาละปะ ทรงบัญชาให้นายทหารระดับแม่ทัพ1000นาย ตั้งแถวถวายสักการะแด่พระเกศธาตุที่นายวาณิชสองพี่น้องอัญเชิญมาทางเรือและมาขึ้นฝั่งเมืองตะเกิงหรือเมืองดากอง ณ บริเวณนี้ จึงสร้างเจดีย์โบดาทาวน์นี้และทรงแบ่งเส้นพระเกศธาตุไว้1เส้น บรรจุในเจดีย์เพื่อบูชา ก่อนนำไปบรรจุไว้ในเจดีย์ชเวดากองและเจดีย์สำคัญอื่นๆ ข้างในองค์เจดีย์ ท่านจะได้ชม สิงของสมัยโบราณ อาทิ พระพุทธรูปทองคำ เงิน ดินเผา ซึ่งจัดแสดงไว้ให้ชมภายในองค์เจดีย์ (สถานที่แห่งเดียวที่ท่านสามารถมองเห็นพระเกศธาตุด้วยสายตาของท่านเอง)

นำท่านสักการะ รูปปั้นเทพทันใจ (นัตโบโบยี) ซึ่งชาวพม่าให้ความเคารพอย่างมากและนิยมมาขอพร ด้วยเชื่อว่าอธิฐานสิ่งใดจะสมความปรารถนาทันทีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ขอพรแล้ว สมดั่งคำอธิฐาน จึงทำให้หลายท่านต้องกลับมาสักการะท่าน หลายๆครั้ง
จากนั้นนำท่านนมัสการ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระเจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่าอายุกว่าสองพันห้าร้อยปี กล่าวกันว่าทองคำที่ใช้หุ้มมหาเจดีย์ชเวดากองนี่ยังมีมากกว่าในห้องนิรภัยของธนาคารประเทศอังกฤษเสียอีก ใครก็ตามที่ได้พบเห็น ก็ต้องรู้ว่าพม่านั้นมีความมั่งคั่งแฝงเร้นอยู่มากมายมหาศาล มหาเจดีย์ชเวดากองมีความสูง 100 เมตรภายในองค์เจดีย์ประดิษฐานพระเกศธาตุของพระพุทธเจ้าและเครื่องบริขารของอดีตพระพุทธเจ้าอีกสามองค์เอาไว้ ส่วนด้านนอกมีการใช้แผ่นทองหุ้มเอาไว้มากถึง 8,688 แผ่น ส่วนยอดประดับด้วยเพชร 5,448 เม็ด ทับทิม ไพลิน และบุษราคัมอีก 2,317 เม็ด มีมรกตเม็ดเขื่องอยู่ตรงกึ่งกลาง ทั้งหมดนี้อยู่บนยอดฉัตรสูง 10 เมตร ที่มีไม้หุ้มทองเจ็ดท่อนรองรับ มีระฆังใบเล็ก ๆ ประดับอยู่ 1,485 ใบ เป็นระฆังทอง 1,065 ใบ ระฆังเงิน 420 ใบ รอบองค์เจดีย์ชเวดากองมีทั้งสถูปบริวาร วิหารทิศ วิหารราย และศาลาอำนวยการ มีพระประจำวันเกิดให้ท่านได้สรงน้ำขอพร และ ขอพรจากองค์เจดีย์ ณ ลานอธิฐานอดีตเคยเป็นลานอธิฐานของพระเจ้าบุเรงนองก่อนออกรบ ซึ่งท่านสามารถถ่ายภาพตรงมุมนี้จะสวยที่สุด

ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารการะเวกก์พร้อมชมการแสดงนาฏศิลป์ของพม่า อันงดงาม อ่อนช้อย บนทะเลสาบหลวง ภัตตาคารแห่งนี้สร้างตามต้นแบบเรือกัญญาของราชวงศ์พม่า หัวเรือเป็นรูปนกการะเวกก์สัตว์ในเทพนิยายอินเดีย หลังคาทำเป็นทรงปราสาทซ้อนสูง ภายในตกแต่งด้วยงานลงรักปิดทองประดับกระจกสี หินอ่อน และงานฝังมุก ประดับไฟอย่างงดงาม ท่านสามารถเห็นทิวทัศน์ของพระมหาเจดีย์ชเวดากองได้งดงามน่าประทับใจอย่างยิ่ง

พักที่ โรงแรม Millennium Hotel หรือ เทียบเท่า

ทัวร์วันที่ 4) ท่องเที่ยวเมืองสิเรียม – เจดีย์เยเลพญา – พระหินอ่อน – ช้างเผือก – สก๊อตมาร์เก็ต – กรุงเทพฯ (B/L/-)

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองสิเรียม ชมความสวยงามแปลกตาของเมืองซึ่งเมืองนี้เคย เป็นเมืองท่าสำคัญของเขตย่างกุ้ง ประเทศพม่า ตั้งอยู่ปากแม่น้ำอิระวดี ในอดีตเคยเป็นที่มั่นของทหารโปรตุเกส ช่วยเหลือมอญทำสงครามกับพม่า ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 ปัจจุบัน สิเรียมมีโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึก และทางรถไฟสำหรับขนส่งสินค้า อยู่ห่างจากย่างกุ้ง 20 กิโลเมตร

จากนั้นนำท่านนมัสการ พระเจดีย์เยเลพะยา (เจดีย์กลางน้ำ) ต้องนั่งเรือพาข้ามน้ำมาจากอีกฟากหนึ่ง วัดแห่งนี้มีภาพเขียนรูปเจดีย์สำคัญๆ อยู่มากมาย มีนัต4 ตน และพระอุปคุต ที่บริเวณท่าเทียบเรือบนเกาะสามารถซื้ออาหารเลี้ยงปลาดุกตัวใหญ่นับร้อยๆ ตัวที่ว่ายวนเวียนให้เห็นครีบหลังที่โผล่เหนือผิวน้ำ

สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางกลับสู่ ย่างกุ้ง
นำท่านชม วัดพระหินอ่อน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหินอ่อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศพม่า

จากนั้นนำชม ปางช้างเผือก ที่เป็นช้าง คู่บ้านคู่เมืองของพม่า มีสีขาวเผือกตลอดทั้งตัวจำนวน 3 เชือก ต้องตามคชลักษณะของช้างเผือกทุกประการ

กลางวัน

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมนู..เป็ดปักกิ่ง+สลัดกุ้งมังกร

หหลังอาหาร นำท่านช็อปปิ้ง ตลาดสก๊อตมาร์เก็ต (SCOTT MARKET) หรือ ตลาดโบ่ซกอ่องซาน ซึ่งสร้างโดยชาวสก๊อตสมัยเมื่อครั้งพม่ายังคงเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษ ภายในตลาดแห่งนี้มีสินค้าจำพวกงานหัตถกรรมของพม่าให้เลือกซื้อหามากมาย อาทิ อัญมณี แพรพรรณ งานฝีมือ งานแกะสลักไม้ เครื่องเขิน ตุ๊กตา เครื่องดนตรี โสร่ง ย่าม เครื่องหวาย และ ภาพวาด

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินย่างกุ้ง (เทศกาลวันสงกรานต์ ตลาดสก็อตปิด และอาจจะมีหลายสถานที่ปิดทำการเช่นกัน)

16.30

ออกเดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดยสายการบินเมียนม่าร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 8M331

18.15

เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ

tour-condition

อัตรานี้รวม
1. ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นทัศนาจร สายการบินเมียนม่าร์ แอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ย่างกุ้ง-กรุงเทพฯ
2. ค่าโรงแรมที่พัก 3 คืนตามรายการที่ระบุ
3. ค่าอาหาร, ค่าพาหนะตามที่ระบุไว้ในรายการ
4. ค่ามัคคุเทศก์ท้องถิ่นนำเที่ยว
5. ค่าภาษีสนามบินไทย 700 บาท,พม่า 10 USD
6. ค่าบริการวีซ่าพม่า (คนไทย)
7. ค่าประกันภัยอุบัติเหตุในการเดินทาง วงเงิน 1,000,000 (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
8.ค่ารถขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
1. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %
2. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 %
3. ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่น และ คนขับรถ
4. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว นอกเหนือจากรายการ
เอกสารประกอบในการขอวีซ่า
- หนังสือเดินทางที่มีอายุเหลือก่อนเดินทางไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
- รูปถ่ายสีหน้าตรง 1.5 - 2 นิ้วเท่านั้น พื้นหลังสีขาวเท่านั้นจำนวน 2 รูป (ไม่ใช่รูปสติกเกอร์)
- ที่อยู่ปัจจุบันหรือที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้
- ที่อยู่ที่ทำงานปัจจุบันและที่อยู่ที่ทำงานเก่า
เงื่อนไขการเก็บเอกสาร และขอยื่นวีซ่า
- ระยะเวลาในการยื่นวีซ่าปกติ 7 วันทำการ
- เอกสารการขอวีซ่า ต้องส่งถึงบริษัท อย่างน้อย 10 วันก่อนการเดินทางไม่รวม เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด นักขัตฤกษ์
- หาก ยื่นเอกสาร ล่าช้ากว่ากำหนด บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการชำระค่าวีซ่าด่วน
- กรณีส่งรูปถ่าย ไม่ถูกต้อง เช่น พื้นหลังเป็นสีฟ้า บริษัทฯจะไม่สามารถดำเนินการยื่นเรื่องวีซ่าให้ได้ เนื่องจากผิดกฎระเบียบการขอยื่นวีซ่า
การจองทัวร์และการชำระเงิน
ทางบริษัทฯ ขอรับ เงินมัดจำท่านละ 5,000 บาท สำหรับการจองทัวร์ พร้อมสำเนาหนังสือเดินทางเพื่อสำรองที่นั่ง ค่าทัวร์ส่วนที่เหลือชำระทั้งหมดก่อนเดินทางอย่างน้อย 15 วัน พร้อมหนังสือเดินทางเล่มจริงที่มีอายุเหลือก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 6 เดือน โดยมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้าและรูปถ่ายสีหน้าตรง (ห้ามใช้รูปขาวดำ) ขนาด1.5นิ้ว–2นิ้ว ท่านละ2 รูป
method-of-payment
เงื่อนไขการยกเลิก
• บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการจองทัวร์ ในกรณีทำการจองเข้ามา แต่ไม่ได้ชำระค่ามัดจำตามวันเวลาที่บริษัทฯกำหนดให้ต้องชำระ เนื่องจากจะทำให้เสียโอกาสในการจองทัวร์ของท่านอื่น
• กรณีที่บริษัทฯได้ทำการ ออกตั๋วกับสายการบินเรียบร้อยแล้ว บริษัทฯจะไม่ดำเนินการคืนเงินค่าตั๋วเครื่องบินให้ท่าน ไม่ว่าจะในกรณีไดก็ตาม เนื่องจากเป็นระบบการออกแบบหมู่คณะ
• บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณา การคืนเงินในกรณี เกิดการยกเลิกการจองทัวร์ ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม
หมายเหตุ
• บริษัทฯมีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงหรือสับเปลี่ยนรายการได้ตามความเหมาะสม
• บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะเลื่อนการเดินทางในกรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึง 15 ท่าน
• ขอสงวนการเปลี่ยนแปลงราคาโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• การไม่รับประทานอาหารบางมื้อไม่เที่ยวตามรายการ ไม่สามารถขอหักค่าบริการคืนได้ เพราะการชำระค่าทัวร์เป็นไปใน ลักษณะเหมาจ่าย
• ความเสียหายใด ๆ ที่เกิดจากเหตุสุดวิสัย เช่น การล่าช้าของเที่ยวบิน การประท้วง การนัดหยุดงาน ภัยธรรมชาติ การจลาจล และความเสียหายที่ทางบริษัท ฯ ไม่สามารถควบคุมได้ จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น
***บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงรายการตามความเหมาะสม แต่คงรักษามาตรฐานการบริการและผลประโยชน์ผู้เดินทางเป็นสำคัญ (ราคาดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับค่าเงินบาทและค่าน้ำมันเพิ่มเติมที่สายการบินเรียกเก็บ)***

ค้นหาที่ท่องเที่ยว


Thailand Tourism Standard

ทัวร์แนะนำ

ผู้เข้าชม

มี 1655 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์