ทัวร์ธิเบต

ทัวร์วันที่ 1) กรุงเทพฯ –โรม

21.00

พร้อมคณะ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย
เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับดูแลด้านเอกสารและ สัมภาระในการเดินทาง

00.20

ออกเดินทางสู่ กรุงโรม โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 944 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11.30ชม.)

ทัวร์วันที่ 2) ท่องเที่ยวกรุงโรม (อิตาลี) – สนามกีฬาโคลอสเซี่ยม – โรมันฟอรัม – น้ำพุเทรวี่ – บันไดสเปน – นครรัฐวาติกัน – มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ – ฟลอเรนซ์

06.50

เดินทางถึงสนามบินลีโอดาร์โนดาร์วินชี ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี

นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว

นำท่านเดินทางสู่กรุงโรมเมืองหลวงของประเทศอิตาลี อดีตศูนย์กลางทางอำนาจและการปกครองของอาณาจักรโรมันอันยิ่งใหญ่ นำท่านผ่านชมอนุสาวรีย์กษัตริย์วิคเตอร์ เอมานุเอลสัญลักษณ์อย่างหนึ่ง ของกรุงโรม ที่ชาวเมืองเองไม่ชอบนักแต่กลับกลายเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องแวะ มาชมเดิมทีสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการรวมประเทศ แต่ปัจจุบันใช้เป็นอนุสรณ์สถานสำหรับทหารนิรนามที่เสียชีวิตในสงคราม

จากนั้นนำท่านสัมผัสความยิ่งใหญ่ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก โคลอสเซี่ยม (ชมด้านนอก)สนามกีฬายุคโบราณที่สามารถจุคนได้ถึง 50,000 คน มีอายุเก่าแก่ถึง 2,000 ปี เป็นสถานที่สำหรับให้ความบันเทิงในยุคนั้น โดยจัดให้มีการต่อสู้ระหว่าง นักสู้ที่เราเรียกว่า กลาดิเอเตอร์ นอกจากนี้ยังมีการต่อสู้ระหว่างนักโทษกับสัตว์ป่าที่ดุร้ายอย่างเช่นสิงโต เสือ หมี ซึ่งผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัลและชื่อเสียงมากมาย ส่วนผู้แพ้จะถูกตัดสินว่าให้มีชิวิตรอดหรือไม่ โดยการยกหัวแม่มือของผู้ชมหรือกษัตริย์

จากนั้นนำท่านสู่ โรมันฟอรัม อดีตอันยิ่งใหญ่ของกรุงโรม ที่เคยเป็นศูนย์กลางของชุมชน ทั้งการเมือง ศาสนา การค้า และการปกครองด้วย ปัจจุบันคงเหลือแต่ซากปรักหักพังแต่ก็ยังสามารถเห็นเค้าโครงของความยิ่งใหญ่ ได้นำชมความงามของ น้ำพุเทรวี่ ซึ่งมีรูปปั้นของเทพเจ้าเนปจูนตั้งโดดเด่นอยู่กลางน้ำพุแห่งนี้ เชื่อกันว่าผู้ที่ได้มาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ แล้วหันหลังใช้มือขวาโยนเหรียญข้ามบ่าซ้ายลงไปในน้ำพุแห่งนี้แล้วจะได้มี โอกาสได้มาเยือนกรุงโรมอีกครั้ง

จากนี้ให้ท่านได้เดินเล่นบริเวณบันไดสเปน(Spanish steps)ซึ่งเป็นบันไดที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีปยุโรป ซึ่งมีทั้งหมด 138 ขั้น และยังตั้งอยู่ด้านหน้าถนนคอนดอตติ ที่นี่เต็มไปด้วยห้างหรูๆ ขายสินค้าเครื่องประดับมียี่ห้อดังๆ อีกด้วย

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ นครรัฐวาติกัน รัฐอิสระที่เล็กที่สุดในโลก ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของกรุงโรม โดยมีพระสันตะปาปาเป็นองค์ประมุข เยี่ยมชมมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์(St.Peter’s Basilica) มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป บริเวณทางเข้าก่อนถึงตัวมหาวิหาร ท่านจะทึ่งกับความสวยงามของลานกว้างรูปไข่ที่งดงามอย่างมาก เรียกว่า เปียซซาซาน พิเอโตร (Piazza San Pietro) ซึ่งล้อมรอบด้วยเสา 284 ต้น และรูปปั้นนักบุญ 96 องค์ และบริเวณกลางลานจะเห็นเสาโอบิลิสก์ อายุกว่า 2,000 ปี เมื่อเข้าไปภายในโบสถ์จะพบกับรูปสลักหินอ่อน พิเอต้า (Pieta) พระแม่มารีอุ้มศพของพระเยซูอยู่บนตักผลงานแกะสลักหินอ่อนที่มีชื่อ เสียงมากของไมเคิล แองเจโล่ชมแท่นบูชาสำหรับพระสันตะปาปาทำพิธีมิสซาตั้งอยู่เหนือที่ฝังศพของ นักบุญปีเตอร์และอีกหนึ่งความงดงามของสถานที่แห่งนี้คือโดมขนาดเส้นผ่าศูนย์ กลาง 42 เมตร ผสมผสานกับความงดงามของภาพวาดเฟรสโก้ภายใต้โดมขนาดใหญ่นี้

สมควรแก่เวลานำ ท่านเดินทางสู่ เมืองฟลอเรนซ์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม.)เมืองหลวงของ แคว้นทัสคานี ต้นกำเนิดของศิลปะแบบเรอเนซองส์อดีตศูนย์กลางด้านสถาปัตยกรรม วรรณกรรม และวัฒนธรรมอันรุ่งโรจน์ดินแดนที่มีเสน่ห์อันน่าหลงใหลแห่งนี้ได้ชื่อว่า เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวใฝ่ฝันมาเยือนมากที่สุด

ค่ำ

รับ ประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง ลิ้มรสสปาเก็ตตี้ สลัด สเต็ก พิซซ่า เสิร์ฟพร้อมน้ำซุป ปิดท้ายด้วยของหวาน

นำท่านเข้าสู่ที่พัก NILHOTEL, FLORENCEหรือเทียบเท่า

ทัวร์วันที่ 3) ท่องเที่ยวฟลอเรนซ์ –เมืองปิซ่า –หอเอนปิซ่า – เมืองเก่าฟลอเรนซ์ –วิหารซานตามาเรีย เดล ฟิโอเร่ – จตุรัสเดลลาซิญญอเรีย–เวนิสเมสเตร้ (ฝั่งแผ่นดินใหญ่)

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

08.00

นำท่านเดินทางสู่ เมืองปิซ่า (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.)นำชม หอเอนเมืองปิซ่า(Leaning Tower) สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาวเพื่อใช้เป็นหอระฆัง ใช้เวลาสร้างยาวนานถึง 177 ปี ลักษณะเด่นของหอเอนแห่งนี้คือมีความเอียง 3.97 องศา เมื่อดูแล้วเหมือนจะล้มส่วนสาเหตุที่เอียงสันนิษฐานว่าเป็นเพราะการสร้าง อยู่บนพื้นทราย ในปี ค.ศ. 1987 องค์การยูเนสโกประกาศให้หอเอนเมืองปิซ่าเป็นมรดกโลก และเป็น1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วยจากนั้น นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองฟลอเรนซ์

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีนเมนูกุ้งมังกร

บ่าย

นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองเก่าฟลอเรนซ์ เขตเมืองเก่าที่ได้รับการคัดเลือกจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกเมื่อ ปี ค.ศ.1982 ชมความยิ่งใหญ่ของสัญลักษณ์ประจำเมือง วิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิโอเร่ (Santa Maria Dell Fiore) วิหารของเมืองฟลอเรนซ์แห่งนี้โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ใช้หินอ่อน หลายสีมาใช้ในการก่อสร้างทั้งสีชมพู สีเขียว และสีขาว ซึ่งนำมาผสมผสานกันได้อย่างงดงาม และอีกอย่างหนึ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือโดมที่ท่านสามารถมองเห็นได้ไม่ว่าจะ อยู่มุมไหนของเมือง ใกล้กันเป็น จตุรัสเดลลาซิญญอเรีย( Piazza Della Signoria ) ที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างมากเนื่องจากเป็นที่ตั้งของรูป ปั้นเดวิด ผลงานที่มีชื่อเสียงของ ไมเคิล แองเจโล่ ถัดมาริมฝั่งแม่น้ำอาร์โน จะพบกับสะพานเก่าแก่ สะพานเวคคิโอ (Vecchio) ที่มีความแปลกตาก็คือจะมีร้านขายทองและอัญมณีอยู่ทั้งสองข้างสะพาน

สมควรแก่เวลาเดินทางสู่ เมืองเวนิส (ฝั่งแผ่นดินใหญ่)(ใช้เวลาเดินทางประมาณ4 ชม.)เมืองหลวงของแคว้นเวเนโตเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็ก ๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียตริกเป็นเมืองท่าโบราณ และเป็นเมืองที่ใช้คลองในการคมนาคมมากที่สุด มีอาคาร ร้านอาหาร บ้านเมืองแบบดั้งเดิมตั้งริมคลอง เวนิสได้รับฉายาว่า เมืองแห่งสายน้ำและเมืองแห่งสะพาน

ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ANTONY HOTEL,VENICE MESTRE หรือเทียบเท่า

ทัวร์วันที่ 4) ท่องเที่ยวเวนิส เมสเตร้ – เที่ยวชมเกาะเวนิส – เครื่องแก้วมูราโน่ – ลูเซิร์น(สวิตเซอร์แลนด์)

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ เพื่อโดยเรือทัศนาจรสู่เกาะเวนิส เมืองในฝันของนักท่อง เที่ยวหลายๆคน ชมความสวยงามของ จตุรัสซาน มาร์โค จุดศูนย์กลางของเกาะเวนิสที่รายล้อมด้วยสถานที่สำคัญหลายแห่งอาทิ มหาวิหารซานมาร์โค ซึ่งเดิมที่เป็นโบสถ์ส่วนตัวของผู้ครองเมืองในสมัยนั้น, พระราชวังดอจส์ (Doge’Palace), ลีโอเน่ (Lione) รูปปั้นสิงโตตัวใหญ่ติดปีกพร้อมถือหนังสือซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ประจำ เมืองเวนิสอิสระให้ท่านเดินชมความโรแมนติกของเกาะแห่งนี้พร้อมทั้งช้อปปิ้ง สินค้าที่มีชื่อเสียงมากมายอย่างเช่น เครื่องแก้วมูราโน่ซึ่งที่นี่เป็นศูนย์กลางการผลิตมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 พร้อมทั้งให้ท่านได้ร่วมชมสาธิตการเป่าแก้วที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอีก ด้วย ครั้งหนึ่งกับการล่องเรือกอนโดล่า Gondola เอกลักษณ์ของเมือง และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ชมความงามสุดแสนโรแมนติกของเกาะเวนิส

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง สปาเก็ตตี้หมึกดำ เสิร์ฟพร้อมปลา กุ้ง และปลาหมึกทอด ปิดท้ายด้วยไอศกรีมสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ

บ่าย

นำท่านเดินทางกลับสู่แผ่นดินใหญ่ที่ ท่าเรือตรอนเคตโต้แล้วนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนต่อสู่เมืองลูเซิร์น อดีตหัวเมืองโบราณของสวิตเซอร์แลนด์สวิตเซอร์แลนด์เป็นดินแดนที่ได้รับสมญา นามว่า “หลังคาแห่งทวีปยุโรป” (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้วก็ยังมีภูเขาใหญ่ น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขาสลับแซมด้วยดงดอกไม้ ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชม.)

ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ASTORIA HOTEL, LUCERNEหรือเทียบเท่า

ทัวร์วันที่ 5) ท่องเที่ยวกรินเดอร์วาล – ยอดเขาจุงเฟรา – ถ้ำน้ำแข็ง – ลานหิมะ – ลูเซิร์น

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ สถานีกรินเดอร์วาล(Grindewald)(ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที)เพื่อนั่งรถไฟJungfraubahn รถไฟสายธรรมชาติมุ่งสู่สถานีจุงเฟรายอค สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป(นั่งรถไฟ 1.50ชม.) ที่ได้ชื่อว่าเป็นเป็น Top of Europe ระหว่างทางท่านสามารถเก็บภาพความสวยงามของธรรมชาติหมู่บ้านพื้นเมือง ธารน้ำแข็งและหิมะขาวโพลน จนถึงจุดที่สูงที่ของยุโรป เพื่อพิชิตยอดเขาจุงเฟรา ซึ่งมีความสูงถึง 3,454 เมตร นักท่องเที่ยวหลายๆคนบอกว่าที่นี่สวยงามดุจดินแดนแห่งสวรรค์เพราะยอดเขาแห่ง นี้ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนตลอดทั้งปีทำให้ในปี 2001 องค์การยูเนสโก้ประกาศให้ยอดเขาจุงเฟราเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของ ยุโรป ชมประวัติการสร้างทางรถไฟขึ้นมาจุงเฟรายอค ชมถ้ำน้ำแข็ง Ice Palace ที่สร้างโดยการเจาะธารน้ำแข็งเข้าไปภายในและแกะสลักน้ำแข็งเป็นรูป ต่างๆ อย่างสวยงาม ชมวิวทิวทัศน์และสัมผัสหิมะที่ลาน Plateau และจุดชมวิว Sphinx Viewpoint ที่สร้างยื่นออกไปเหนือ Aletsch Glacier ที่มีความยาวที่สุดในโลกถึง 23ก.ม.

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารTop Panoramaบนยอดเขา

บ่าย

นำท่านลงจากยอดเขาจุงเฟราเพื่อกลับสู่ เมืองลูเซิร์น

นำท่านชม สะพานไม้ชาเปล(Chapel bridge) เป็นสะพานไม้ที่เก่าที่สุดในโลกมีอายุหลายร้อยปีเป็นสัญลักษณ์และ ประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียวจากนั้น แวะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์สิงโตหิน ที่แกะสลักอยู่บนหน้าผาที่หัวของสิงโตจะมีโล่ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิส เซอร์แลนด์อยู่โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์และจงรักภักดีที่เสียชีวิตไปในประเทศฝรั่งเศสระหว่างการต่อสู้ ป้องกันพระราชวังในคราวปฏิวัติใหญ่ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมค.ศ.1792 ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16

ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองลิ้มรสฟองดูว์บูร์กิยอง อาหารพื้นเมืองสวิส

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ASTORIA HOTEL, LUCERNE หรือเทียบเท่า

ทัวร์วันที่ 6) ท่องเที่ยวลูเซิร์น - ดิจอง – นั่งรถไฟTGV (2nd Class) – กรุงปารีส (ฝรั่งเศส) – โบสถ์นอร์ทเธอดาม – ล่องเรือแม่น้ำแซน (เรือบาโตมูซ)

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ออกเดินทางโดยรถโค้ชสู่เมืองดิจอง(ใช้เวลาเดินทาง 3.30ชม.) ผ่านเมืองบาเซิล พรมแดนของสวิตเซอร์แลนด์-ฝรั่งเศส

เดินทางผ่านทุ่งราบอันกว้างใหญ่สู่เขตแคว้นเบอร์กันดีที่มีการปลูกต้นมาสต้า เพื่อนำมาผลิตมัสตาร์ด อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นดี และยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญในด้านการคมนาคมขนส่งอีกเมืองหนึ่ง

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

บ่าย

นำท่านเดินทางสู่นครปารีส โดย รถไฟ TGV 2nd Class วิ่งด้วยความเร็ว 250 กม./ชม.(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.)สู่สถานีรถไฟ Gare Du Lyon กรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศสตั้งอยู่ริมแม่น้ำแซน บริเวณตอนเหนือของประเทศ บนใจกลางแคว้นอีล-เดอ-ฟรองซ์ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทาง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก และด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

นำท่านผ่านชม โบสถ์นอร์ทเธอดามสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่มีความสวยงามสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้ กับพระแม่มารี ลักษณะเด่นของวิหารแห่งนี้คือหอคอยคู่ที่อยู่ด้านหน้าความสูง 69 เมตร และความงดงามของปลายแหลมยอดโบสถ์ที่สูงถึง 90 เมตร และรูปปั้นด้านหน้าของพระแม่มารี อันเป็นที่ศรัทธาของคริสต์ศาสนิกชน ส่วนภายในมีลักษณะเป็นห้องโถงโล่งมีทางเดินยาวไปยังแท่นพิธี อีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ท่านสะดุดตาก็คือ Rose Window กระจกสีทรงกลมที่มีกลีบเหมือนกลีบดอกกุหลาบสวยงามมาก จากนั้นนำท่าน ล่องเรือบาโตมูชชมความสวยงามของสองฝากฝั่งแม่น้ำแซน ซึ่งระหว่างทางจะผ่านสถานที่สำคัญๆ เช่นพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ มหาวิหารนอร์ทเธอดาม สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 รวมทั้งโบราณสถานและอาคารที่เก่าแก่สร้างด้วยศิลปะแบบเรอเนสซองส์อีกหลายแห่ง

ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง ลิ้มลองหอยเอสคาร์โก อาหารขึ้นชื่อของฝรั่งเศสสเต็กพื้นเมืองพร้อมลิ้มรสไวน์แดงชั้นเยี่ยมต้น ตำรับฝรั่งเศสแท้ และผลไม้ตามฤดูกาล

นำท่านเข้าสู่ที่พัก MERCURE HOTEL, PARISหรือเทียบเท่า

ทัวร์วันที่ 7) ท่องเที่ยวปารีส – พระราชวังแวร์ซายส - ขึ้นหอไอเฟล(ชั้น 2) – อิสระช้อปปิ้ง

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ พระราชวังแวร์ซายส์ (มีไกด์คนไทยบรรยายด้านในพระราชวัง) พระราชวังที่ได้ ชื่อว่างดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอีกทั้งยังมีไสตล์การตกแต่งที่เป็น เอกลักษณ์หรืออย่างที่เราเรียกว่า หลุยส์ นั้นเอง นำท่านชมความงามของห้องต่าง ๆ อาทิ ห้องอพอลโล, ห้องฮอลล์ออฟมิลเลอร์, ห้องนโปเลียนแต่ละห้องของพระราชวังล้วนมีค่าด้วยภาพเขียนสีแบบเฟรสโก้โดย ช่างฝีมือเอกชาวฝรั่งเศส ควรค่าแก่การยกย่องให้เป็นพระราชวังที่งดงามล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

จากนั้นไปชมสวนแบบฝรั่งเศส ที่หลายประเทศนิยมในการนำรูปแบบการจัดสวนไปใช้กันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

บ่าย

นำท่านชมเมืองปารีส นำชมจตุรัสทรอคาเดโร ซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถถ่ายภาพและชมหอไอเฟลจากมุม กว้างได้สวยที่สุด จากนั้นนำท่านขึ้นลิฟท์ สู่ชั้น 2 ของหอไอเฟล ประติมากรรมเหล็กขนาดใหญ่นี้สร้างขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี หลังการปฏิวัติฝรั่งเศส ซึ่งประชาชนในสมันนั้นคัดค้านและบอกว่าเป็นประติมากรรมที่มีรูปทรงน่าเกลียด ที่สุดในโลกแต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองและมีผู้คนอยากมา เห็นมากที่สุดในโลกให้ท่านชมมหานครปารีสจากมุมสูง พร้อมถ่ายภาพอันน่าประทับใจไว้เป็นที่ระลึก

นำคณะผ่านชมพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ จากด้านนอก สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 12เดิมเป็นที่ตั้งป้อมปราการและเป็นพระราชวังที่ประทับของกษัตริย์ฝรั่งเศส หลายพระองค์ ด้านหน้าเป็นปิระมิดแก้วภายในเป็นที่สะสมงานศิลปะ ตั้งแต่พระเจ้าฟรองซัวร์ที่ 1เข้าสู่ถนนชองป์เซลิเซ่ ถนนแฟชั่นที่มีชื่อเสียง ชมความยิ่งใหญ่ของประตูชัย หรือArc De Triumph สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่จักรพรรดิ์นโปเลียน,จตุรัสคอง-คอร์ท ซึ่งเคยเป็นลานประหารพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอังตัวเนต

อิสระให้ท่านช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าแบรนด์ดัง อาทิ น้ำหอม เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องสำอาง ณ ร้าน Duty Free หรือ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังอาทิ แพรงตองส์ หรือ แกลลารี-ลาฟาแยตต์

ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย

นำท่านเข้าสู่ที่พัก MERCURE HOTEL, PARISหรือเทียบเท่า

ทัวร์วันที่ 8) ท่องเที่ยวชาร์ลส์เดอโกล – กรุงเทพฯ

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่สนามบินชาร์ลส์เดอโกล เพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ

13.40

ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG931(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11.15 ชม.)

ทัวร์วันที่ 9) กรุงเทพฯ

05.55

เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ