สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศลาว

วัดพูเสร่า

วัดพูเสร่า

วัดพูเสร่า หรือที่เรียกกันในหลายๆแบบ เช่น วัดภูเสร่า แบบชาวลาวก็เรียกว่า วัดพูส่าเหล้า หรือ วัดภูสาลาว (Phou Sa Lao) เป็นวัดที่อยู่ทางขวามือก่อนข้ามสะพานมิตรภาพลาว-ญี่ปุ่น วัดนี้มีความงดงามมาก ซึ่งวัดนี้จะตั้งอยู่บนเขา ขึ้นไปไม่สูงมาก ซึ่งด้วยเหตุนี้นามของวัดจึงมีคำว่า ภู หรือ พู ติดเข้ามาด้วย

วัดนี้ตั้งอยู่ระหว่างเมืองปากเซ และ เมืองโพนทอง ของแขวงจำปาสัก ตำแหน่งที่ตั้งของวัดนั้นนับว่าเหมาะมาก เพราะตั้งอยู่ตรงกันข้ามฝั่งแม่น้ำโขงกับเมืองปากเซ

โดยปกติการไปทัวร์ลาวจะนำนักท่องเที่ยวแวะไปดูตอนพระอาทิตย์ตก ซึ่งจะงดงามตามรูปภาพที่เห็น สามารถมองเห็นตัวเมืองปากเซได้ใกล้กว่าการแวะวัดหาดทรายคูณ หรือ วัดภู่กิ่งแก้วกองมณี ซึ่งวัดนี้จะอยู่ทางผ่านไปดูน้ำตกหลี่ผี และ น้ำตกคอนพะเพ็ง ซึ่งแต่เดิมทางนิววิวทัวร์ได้พานักท่องเที่ยวไปชมวัดที่นั่น (บางโปรแกรมทัวร์ ลาว เรายังมีอยู่) แต่โปรแกรมกรุ๊ปเหมาที่เริ่มต้นที่อุบลจะเปลี่ยนมาเที่ยวที่วัดวัดพูเสร่าแทน ซึ่งจะเป็นการมาแวะหลังจากไปชมน้ำตกหลี่ผี และ น้ำตกคอนพะเพ็งแล้ว

อุทยานแห่งชาติพูเขาควาย ลาว

อุทยานแห่งชาติพูเขาควาย (Phu Khao Kwai)

เดิมเป็นฐานลับของกองทัพลาว ภายหลังการปฏิวัติได้ปรับปรุงเป็นอุทยานฯ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้เมื่อปี พ.ศ 2538 อุทยานพูเขาควายตั้งอยู่บนที่ราบสูงเหนือระดับนํ้าทะเลประมาณ 670 เมตร ครอบคลุมอาณาเข 2,000 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยป่าสน ป่าไม้ผลัดใบ และทุ่งหญ้า มีแม่นํ้ามาง แม่นํ้าลึก และแม่นํ้ายงไหลผ่าน จุดเด่นของอุทยานฯ อยู่ที่ตาดไซ นํ้าตกขนาดใหญ่ท่ามกลางป่าเขียวขจี ตั้งอยู่ทางตะวันตกของบ้านท่าบก ไม่มีรถโดยสารสาธารณะวิ่งผ่าน ต้องเช่ารถจากเวียงจันทน์ไปตามทางหลวงหมายเลข 13 ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

อ่างเก็บน้ำนํ้างึม ลาว

อ่างเก็บน้ำนํ้างึม (Nam Ngum Dam)

เป็นอ่างเก็๋บนํ้าเหนือเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่กั้นลำนํ้างึมที่ไหลมาจาก แขวงเซียงขวาง อยู่ห่างจากเวียงจันทน์ไปทางเหนือ 90 กิโลเมตร ในอ่างเก็บนํ้ามีเกาะแก่ง หลายแห่ง เช่น เกาะท้าว เกาะนาง ซึ่งเคยเป็นสถานที่กักขังนักโทษชาย - หญิง บริเวณเขื่อน มีร้านและแพบริการอาหารที่ปรุงจากปลาสดๆ และที่พักตากอากาศ แดนสวรรค์นํ้างึมรีสอร์ต (Dansavanh Nam Ngum Resort โทร . 21 - 217 595 เว็บไซต์ www.ddansavanh.com) ที่พรั่งพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก สถานบันเทิง และบ่อนกาสิโน

การเดินทาง : เหมารถสองแถวจากเวียงจันทน์ หรือนั่งรถโดยสารสายเหนือ # 1 ไปลงที่บ้านท่าลาดหรือเมืองวังเวียงแล้วต่อรถสองแถวไปเขื่อน

อนุสาวรีย์ประธานไกสร พรหมวิหาร ลาว

อนุสาวรีย์ประธานไกสรพรหมวิหาร

ตั้งอยู่ห่างจากวัดหลวงลัตตะมาลาม 300 เมตร อนุสาวรีย์ประธานไกสร พรหมวิหาร เป็นอนุสารีย์สีขาวตั้งเด่นอยู่กลางสนามกว้าง ที่ชาวบ้านใช้จัดพิธีการสำคัญๆของเมือง โดดอนุสาวรีย์ตรงกลางที่ใหญ่ที่สุดสลักคำว่า ประเทศชาติ จารึก บุญคุณ ด้านซ้ายมือสลักคำว่าวีรชน นางแฮ่ว ธาตุน้อย และด้านขวาสลักคำว่า จารึกวีรชน จันทา ธาตุน้อย วางเด่นมีรั้วสีขาวล้อมรอบ

ถัดมานอกรั้วมีลานเวที ชิงช้าสวรรค์ให้เด็กเล่น และมีรูปปั้นท่านประธานไกสร พรหมวิหาร อดีตประธานาธิบดีของลาวครึ่งตัวตั้งอยู่ หากได้มาชมก่อนพระอาทิตย์ตกดิน แสงตะวันจากทิศตะวันตกจะทแยงมุมเข้ามายังตัวอนุสาวรีย์เป็นแสงสีส้มอมเหลืองตัดกับสีขาวของอนุสาวรีย์สวยงามมาก เวลาเปิด 08.00-11.00 น. และ 14.00-16.00 น.

อนุสาวรีย์ท่านกุรวงศ์ ลาว

อนุสาวรีย์ท่านกุรวงศ์

อยู่บนถนนสุดธนู ตรงข้ามศาลเจ้าจีน ห่างจากวัดชัยสมบูรณ์ประมาณ 500 เมตร ท่านกรุวงศ์เป็นวีรบุรุษในสมัยสงครามต่อต้านญี่ปุ่น และเป็นอดีตรัฐมนตรีกลาโหมคณะรัฐบาลฝ่ายขวา (อนุรักษ์นิยม)

อนุสารีย์นี้สร้างขึ้นเพื่อร่วมจารึกประวัติศาสตร์วีรชนสมัยสงครามของประเทศลาว รุปปั้นหินปูนสีดำทะมึนขนาดเท่าคนจริง เชิดชูเกียรติท่ากรุวงศ์ สร้างขึ้นหลังจากที่ท่านถูกลอบสังหารโดยท่านอยู่ในชุดขุนนางชั้นสูง สวมเสื้อไม่มีปก ยืนอยู่กลางลานสวนดอกไม้ล้อมรั้วเหล็กขนาดเล็ก รูปหล่อนี้ถูกเก็บไว้เป็นเวลานาน เพราะเหตุผลทางการเมืองเพิ่งจะนำมาตั้งเมื่อ ปีพ.ศ. 2538

อนุสาวรีย์ไกสอน พมวิหาน ลาว

อนุสาวรีย์ไกสอน พมวิหาน (Kaysone Phomvihane Memorial)

อนุสาวรีย์และพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดเมื่อปี พ.ศ 2538 เพื่อเฉลิมฉลองอายุ 75 ปี ของท่านไกสอน พมวิหาน (ไกรสร พรหมวิหาร) อดีตประมุขที่มีบทบาทสำคัญมากในการกอบกู้เอกราชจากลัทธิจักรวรรดินิยม เป็นผู้นำที่ชาวลาวให้ความเคารพสูงสุดท่านหนึ่ง (มีอนุสาวรีย์ของท่านในเมืองสำคัญของลาวแทบทุกเมือง) ตั้งอยู่ในบริเวณที่เคยเป็นฐานบัญชาการของซีไอเอ และลาวเข้ายึดครองภายหลังจากสหรัฐอเมริกาถอยร่นไปแล้ว ท่านไกสอนใช้เป็นที่พำนักตั้งแต่ปี พ.ศ 2518 จนถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปีพ.ศ 2535 ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 13 จากเวียงจันทน์ไปทางใต้ประมาณกิโลเมตรที่ 6

การเดินทาง ควรเป็นแท็กซี่หรือตุ๊กตุ๊กเพราะอยู่ห่างจากถนนใหญ่พอสมควร

หอพระไตรปิฎก ลาว

หอพระไตรปิฎก

สำหรับเก็บรักษาพระไตรปิฎก และตำราคัมภีร์ ทางพระพุทธศาสนา ถึงแม้วัดสีสะเกดจะไม่ถูกเผาทำลายเหมือนวัดอื่น ๆ แต่ก็ถูกปล้นสะดมจี้เอาพระไตรปิฎกไปจนหมดเกลี้ยง ปัจจุบันมีเพียงหอพระไตรที่แสดงไว้ให้แขกต่างด้าวท้าวต่างเมืองมาเที่ยวชม ส่วนของหลังคาหอพระไตรปิฎกจะมีความคล้ายคลึงศิลปะของพม่าเพราะในสมัยนั้น อาจได้รับอิทธิพลจากพม่า นอกจากนี้ยังมีแผ่นศิลาจารึก ซึ่งกล่าวถึงเรื่องราวประวัติของวัดสีสะเกดอีกด้วย

ในสมัยก่อนวัดสิสะเกดมีอาณาเขตกว้างขวางมากมีกำแพงล้อมรอบทั้งสี่ด้าน ต่อมาในปี ค.ศ.1963 ได้ตัดเส้นทางใหม่ คือถนนเชษฐาธิราช ส่วนประตูโขงด้านหน้าติดกับหอคำ หรือสำนักงานประธานประเทศในปัจจุบัน

หอคำ ลาว

หอคำ (Hor Kham)

เรือนรับรองอาคันตุกะต่างแดนของรัฐบาล เป็นอาคาร 2 ชั้นทาสีเทา ตัดกรอบประตู หน้าต่างด้วยสีขาว เดิมเป็นพระราชวังของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ไม่เปิดให้เข้าชมภายใน และห้ามถ่ายภาพ ตั้งอยู่ติดกับหอพระแก้ว

หลักซาวและบ้านนาแป ลาว

หลักซาว (Lak Sao) และบ้านนาแป (Ban Nape)

ตั้งอยู่ในเขตภูเขาหินปูนที่เคยมีป่าสมบูรณ์ ทางตอนเหนือของแขวงบอลิคำไซ ห่างจากเมืองปากซันประมาณ 100 กิโลเมตร หลักซาวตั้งอยู่ในเขตภูเขาหินปูน เป็นที่อยู่อาศัยของชาวเขาเผ่าม้งและเหม้ย(แถง) ต่อมาป่าถูกทำลายเพื่อทำไร่เลื่อนลอย รัฐบาลลาวจึงกำหนดเขตปกครองในรูปแบบของบริษัท ดำเนินการหารายได้เลี้ยงตนเอง พร้อมกับพัฒนาถิ่นที่อยู่อาศัยและส่งเสริมอาชีพแก่ชาวเขาเขตหลักซาวมีถํ้าหินปูนหลายแห่ง สถานที่เข้าชมได้คือ ถ้ำเมืองคอน ตั้งอยู่ทางเหนือเมืองขึ้ไปตามทางหลวงหมายเลข 8 ประมาณ 17 กิโลเมตร และมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงคือ บ่อน้ำอุ่นในลำน้ำพาว อยู่เลยจากถ้ำไปประมาณ 1 โลเมตร จากหลักซาวยังมีถนนผ่านไปบ้านนาแป ชายแดนด่านแก้วเหนือตรงข้ามด่านก่อเตรียวของเวียดนาม

เปิดทำการทุกวัน เวลา 08.00 - 17.00 น.หลักซาวมีไฟฟ้าใช้ตลอด 24 ชั่งโมง มีที่พักหลายแห่ง

การเดินทางไปหลักซาวถ้าไม่มีรถไปเองต้องขึ้นรถโดยสารที่เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน รถออกวันละ 2 เที่ยว หรือโดยสารเครื่องบินจากเวียงจันทน์ต้องมีผู้โดยสารอย่างน้อย 6 คน สอบถามรายละเอียดและสำรองเที่ยวบินได้ที่สายการบินลาว สำนักงานใหญ่นครเวียงจันทน์

หลวงเมืองเก่าวะราราม ลาว

หลวงเมืองเก่าวะราราม

วัดหลวงเมืองเก่าวะราราม ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดฟางแตง สมัยอดีต การเดินทางไปวัดแห่งนี้ต้องขึ้นเรือข้ามฝั่งที่ท่าเรือ ค่าโดยสาร 5,000 กีบ/คน แต่ปัจจุบันมีการสร้างถนนข้ามผ่านแม่น้ำเซกะมานแล้ว วัดหลวงหรือวัดเก่าเป็นวัดแรกบนแขวงอัตตะปือ ที่ถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าไชยเชษฐาก่อนวัดฟางแตง บริเวณโดยรอบยังคงสภาพเดิมทุกอย่างทั้งตัวอุโบสถที่เป็นตึกคอนกรีตก่อด้วยอิฐสีเทา ใช้เป็นที่ศึกษาพระธรรม ภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป